“โปรเรย์” อมรินทร์ กรัยวิเชียร สวิงหนุ่มรุคกี้จาก กทม. หยิบแชมป์อาชีพแรกให้ตัวเองสำเร็จ หลังหวดเพิ่มอีก 4 อันเดอร์พาร์ 67 ในการแข่งขันกอล์ฟอาชีพรายการ สิงห์ ทีดีที นครนายก 2019 ณ สนาม วอเตอร์มิลล์ กอล์ฟ คลับ แอนด์ รีสอร์ท จ.นครนายก เมื่อวันศุกร์ที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา ทั้งที่เพิ่งจะลงเล่นในแมตช์อาชีพเพียงรายการที่ 2 เท่านั้น
การแข่งขันรายการนี้เป็นรายการที่ 4 ของซีซั่น โดยสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพฯ รับการสนับสนุนจาก บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด จัดแข่งขันชิงเงินรางวัลรวมมูลค่า 800,000 บาท แชมป์รับ 80,000 บาท ระหว่างวันที่ 18-19 ก.ค.นี้ ณ สนาม วอเตอร์มิลล์ กอล์ฟ คลับ แอนด์ รีสอร์ท จ.นครนายก ในแบบพาร์ 71 ระยะ 7,239 หลา
จบการแข่งขันวันสุดท้าย (19 ก.ค. 2562) ผลปรากฏว่า “โปรเรย์” อมรินทร์ กรัยวิเชียร นักกอล์ฟหนุ่มดีกรีนักเรียนนอกวัย 22 ปี ยังคงโชว์ฟอร์มได้นิ่งเสมอต้นเสมอปลายด้วยการเก็บเพิ่มอีก 4 อันเดอร์พาร์ 67 จากผลงาน 4 เบอร์ดี้ไม่มีเสียโบกี้เลย ทำสกอร์รวม 9 อันเดอร์พาร์ 133 รับแชมป์อาชีพแรกให้กับตัวเองสำเร็จพร้อมรับเงินรางวัลไป 80,000 บาท
สวิงหนุ่มที่เพิ่งจะสำเร็จการศึกษาจากประเทศสหรัฐอเมริกา และเดินทางกลับมาลงแข่งขันกอล์ฟอาชีพในเมืองไทยรายการนี้เป็นแมตช์ที่ 2 เผยว่า “ก่อนที่้จะลงเล่นรอบนี้ก็มีความมั่นใจแบบลึกๆ แต่ก็ทราบดีว่ามีนักกอล์ฟฝีมือหลายคน จึงไม่สามารถเล่นประคองได้มาก เผอิญว่าในช่วงออกสตาร์ทวันนี้ทำได้ดี แต่ก็เหมือนเมื่อวานที่ยังทำแต้มไม่ได้ ก่อนมาถึงหลุม 4 ที่เสียโบกี้ทั้งรอบควอลิฟาย และรอบแรก จึงตัดสินใจเปลี่ยนแผน ก่อนจะเซฟพาร์ได้ ซึ่งสำคัญสำหรับตัวเองมาก ทำให้มีความมั่นใจขึ้น และ 2 หลุมต่อมาก็ทำเบอร์ดี้ได้ มาถึงตรงนั้นก็เกิดความมั่นใจในเกมของตัวเอง อีกอย่างมีการเซฟพาร์จากระยะไกลๆหลายหลุมทำให้มั่นใจทั้งเกมยาว และเกมสั้นของตัวเอง มาถึงหลุม 13 พอเห็นพี่ทำสกอร์มาเท่ากันที่ 8 อันเดอร์ฯ ก็มีความคิดที่จะทำเบอร์ดี้ และก็ทำได้จากการพัตต์ยาวจากระยะ 30 ฟุต ทำให้รู้สึกสะใจมาก เพราะตอนนั้นค่อนข้างกดดันแล้ว เพราะรู้ว่า 3-4 หลุมสุดท้ายไม่ง่ายที่จะทำสกอร์ พอได้เบอร์ดี้ก็เปลี่ยนแปลงด้วยการใช้ไม้ 3 และเหล็ก 2 เพื่อเล่นแบบปลอดภัย เน้นกรีน หรือไม่ก็วางตัวเพื่อไปชิพหน้ากรีน ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามแผน และมั่นใจมากขึ้นเรื่อยๆ”
โปรดาวรุ่งจาก กทม. กล่าวต่อว่า “รู้สึกประทับใจกับการจัดการแข่งขันของ สมาคมกอล์ฟอาชีพฯ มาก ไม่ใช่ว่ามาตราฐานธรรมดา แต่มันดีมาก ทั้งสนาม ทั้งทีมงาน กรรมการ สต๊าฟฟ์ทุกคนมีอัธยาศัยดีมากควบคุมการแข่งขันได้ยอดเยี่ยมมาก และอธิบายกฏทุกอย่างได้อย่างเรียบร้อย และคิดว่าสนาม วอเตอร์มิลล์ แห่งนี้เป็นหนึ่งในสนาม แชมเปี้ยนชิพ คอร์ส ที่เรียกได้ว่าดีมากๆสนามหนึ่งของเมืองไทย”
รองแชมป์ตกเป็นของ สุพคม มีสม สวิงวัย 26 ปี ที่วันนี้หวดถึง 8 อันเดอร์พาร์ 63 จากผลงาน 8 เบอร์ดี้ไม่มีเสียเลย โดยเฉพาะการทำ 4 เบอร์ดี้รวดตั้งแต่หลุม 13-16 ก่อนที่จะจบด้วยการทำเบอร์ดี้ในหลุมสุดท้าย ทำสกอร์รวม 8 อันเดอร์พาร์ 134 คว้ารองแชมป์พร้อมเงินรางวัลไป 45,000 บาท
สุพคม เผยว่า “ออกสตาร์ทไปทำได้ดีทุกอย่าง เหลือแค่พัตต์ที่ยังไม่ดีเท่าไร คือประมาณพัตต์เฉียดไปทุกหลุม ก่อนที่จะปลดล็อคให้ตัวเองได้ที่หลุม 8 พาร์ 5 โดยตีชอต 2 ไปหน้ากรีน และชิพไปเหลือประมาณ 4 ฟุตพัตต์เบอร์ดี้ และหลุม 9 ตีเข้าป่าเคาะมาหน้ากรีนแล้วชิพลง มาที่หลุม 10 ทำ 2 ออน 2 พัตต์ทำเบอร์ดี้ หลุม 11 ตีไปเหลือประมาณคันธง พัตต์ไปจ่อหน้าหลุม ก่อนมาถึงหลุม 13 พัตต์เบอร์ดี้จาก 2 คันธงลง หลุม 14 ตีตกกรีนแต่ชิพลงเป็นเบอร์ดี้ เช่นเดียวกับหลุม 15 ที่ชิพลงอีกหลุมจากด้านขวา และหลุม 16 ที่พัตต์เบอร์ดี้ระยะ 2 คันธงลง และมาทำเบอร์ดี้ที่หลุมสุดท้ายที่ชิพมาแท๊ปอินเบอร์ดี้”
“วันนี้ที่เล่นได้ดีแบบนี้เพราะไม่มีความกดดัน และเล่นกอล์ฟด้วยความสนุก ไม่ได้เน้นอะไร สำหรับสกอร์ 8 อันเดอร์ฯ เคยทำได้มาแล้วในแมตช์ ออลไทยแลนด์ ที่สนามสุวรรณ และหนนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่ทำได้ และครั้งนี้ก็เป็นหนแรกของปีที่คว้าอันดับ 2 หลังจากปีที่แล้วคว้ารองแชมป์ไปทั้งสิ้น 4 แมตช์ แพ้เพลย์ออฟไป 3 หน และเป็นที่ 2 เดี่ยว 1 ครั้ง”
อันดับ 3 ตกเป็นของ กิตติพร ชวนะพงศ์ โปรวัย 20 ปี รับเงินรางวัลไป 27,500 บาท จากผลงาน 5 อันเดอร์พาร์ 137 โดยที่มี ปฐวีกานต์ คำมนตรี, วินธัย วิวัฒน์สนิทชัย และ สัจจวัฒน์ ศรีประสิทธิ์ รั้งอันดับ 4 ร่วม ที่สกอร์รวม 4 อันเดอร์พาร์ 138
ด้าน ธนะเมศฐ์ ธนาโชควิสิทธิ์ ผู้นำในอันดับทำเงินของทัวร์ จบแมตช์นี้ด้วยการคว้าอันดับ 14 ร่วมจากผลงาน อีเวนพาร์ 142 รับเงินรางวัลไป 14,900 บาท โดยรายการต่อไปของศึก สิงห์ ไทยแลนด์ ดีเวลลอปเมนท์ ทัวร์ 2019 จะเป็นการแข่งขันรายการ “สิงห์-ทีดีที กบินทร์บุรี 2019 ชิงเงินรางวัลรวม 850,000 บาท ณ สนาม กบินทร์บุรี สปอร์ต คลับ ระหว่างวันที่ 13-16 ส.ค.นี้ต่อไป
สรุปผลการแข่งขันกอล์ฟ สิงห์ ทีดีที นครนายก 2019
1.(-9) 133 อมรินทร์ กรัยวิเชียร (66-67) รับเงินรางวัล 80,000 บาท
2.(-8) 134 สุพคม มีสม (71-63) รับเงินรางวัล 45,000 บาท
3.(-5) 137 กิตติพร ชวนะพงศ์ (67-70) รับเงินรางวัล 27,500 บาท
4.(-4) 138 ปฐวีกานต์ คำมนตรี (72-66) รับเงินรางวัล 20,466 บาท
วินธัย วิวัฒน์สนิทชัย (71-67) รับเงินรางวัล 20,466 บาท
สัจจวัฒน์ ศรีประสิทธิ์ (69-69) รับเงินรางวัล 20,466 บาท
7.(-3) 139 อรรถชัย ใจฉลาด (67-72) รับเงินรางวัล 18,650 บาท
วุฒิวิทย์ เจริญพรอนุกูล (67-72) รับเงินรางวัล 18,650 บาท