ปิยะ สว่างอรุณพร เก็บ 2 เบอร์ดี้ใน 3 หลุมสุดท้ายก่อนจบรอบ 7 อันเดอร์พาร์ 65 รวมสองวันนำร่วมกับ ดลภัทรไชย นิยมชน ด้วยสกอร์ 9 อันเดอร์พาร์ 135 ในการแข่งขันกอล์ฟอาชีพไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ รายการ สิงห์-เอสเอที ขอนแก่น แชมเปียนชิพ ชิงเงินรางวัลรวม 3 ล้านบาท ณ สนามสิงห์ปาร์ค ขอนแก่น กอล์ฟคลับ ระยะ 7,536 หลา พาร์ 72 จ.ขอนแก่น เมื่อ 22 พ.ย.61

สมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทย ร่วมกับ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด และ การกีฬาแห่งประเทศไทย จัดการแข่งขัน สิงห์-เอสเอที ขอนแก่น แชมเปียนชิพ 2018 ชิงเงินรางวัลรวม 3 ล้านบาท โดยผู้ชนะจะได้รับเงินรางวัล 360,000 บาท เป็นรายการสะสมเงินรางวัลออเดอร์ ออฟ เมอริท ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ แมทช์สุดท้ายของฤดูกาล แข่งขันระหว่างวันที่ 21-24 พฤศจิกายน ณ สนามสิงห์ปาร์ค ขอนแก่น กอล์ฟคลับ ระยะ 7,536 หลา พาร์ 72 จ.ขอนแก่น

เมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมาเป็นรอบสองของการแข่งขัน ปิยะ สว่างอรุณพร นักกอล์ฟวัย 35 ปีจากอุบลราชธานี ทำเข้ามาอีก 7 อันเดอร์พาร์ 65 รวมสองวัน 9 อันเดอร์พาร์ 135 ขึ้นนำร่วมกับ ดลภัทรไชย นิยมชน โปรวัย 28 ปีจากนครสวรรค์ ที่หวดเข้ามาอีก 4 อันเดอร์พาร์ 68 โดยมี จักรพันธ์ เปรมสิริกรณ์ ตามหลัง 1 สโตรกที่สกอร์รวม 8 อันเดอร์พาร์ 136

ปิยะ สว่างอรุณพร ซึ่งออกสตาร์ทรอบสองที่หลุม 10 เก็บเพิ่มมาอีก 8 เบอร์ดี้ รวมถึงการทำ 2 เบอร์ดี้ใน 3 หลุมสุดท้ายขยับขึ้นมานำร่วมหลังผ่าน 36 หลุมกล่าวว่า “วันนี้ลมแรงครับ แรงกว่ารอบแรกเยอะมาก แต่ผมเล่นได้ค่อนข้างดี ช็อตไม่แตกต่างจากวันแรกแต่พัตต์ได้ดี ทุกอย่างดีหมด ไม่ค่อยมีข้อผิดพลาดเมื่อเทียบกับการเล่นในสภาพลมที่ค่อนข้างแรง”

นักกอล์ฟวัย 35 ปีจากอุบลราชธานี แชมป์ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ 3 รายการ แต่กำลังลุ้นแชมป์แรกนับตั้งแต่ชนะที่กบินทร์บุรี สปอร์ตคลับ เมื่อปี 2013 กล่าวถึงเป้าหมายของเขาด้วยว่า “ตอนนี้เปลี่ยนความคิดใหม่ ไม่ได้ตั้งเป้าที่คะแนน แต่ตั้งเป้าในสิ่งที่กำลังจะเอามาทำ เราเวิร์คอะไรอยู่ ไปเรียนอะไรมา ถ้าที่เราเวิร์กมาแล้วสามารถทำได้ดีก็จะพอใจโดยไม่ได้สนใจว่าสกอร์จะออกมาอย่างไร สองวันนี้โอเคครับ อาจจะมีหลุดบ้างแต่พอใจกับการควบคุมตรงนี้”

ส่วน ดลภัทรไชย นิยมชน โปรวัย 28 ปีจากนครสวรรค์ ที่ออกสตาร์ทรอบสองที่หลุม 10 เช่นกันและเริ่มต้นด้วยความร้อนแรงกดไป 5 เบอร์ดี้ติดต่อกันตั้งแต่หลุม 11 ก่อนจบรอบสองทำเข้ามา 7 เบอร์ดี้ แต่น่าเสียดายที่ในช่วงเก้าหลุมสุดท้ายไปพลาดเสียสามโบกี้ติดต่อกันทำให้กลับขึ้นคลับเฮ้าส์ 4 อันเดอร์พาร์ 68 รวมสองวันยังดีพอที่จะรักษาตำแหน่งผู้นำร่วมไว้ได้

ดลภัทรไชย ที่กำลังตามล่าแชมป์ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์รายการแรกในชีวิต กล่าวว่า “โดยรวมแล้วโอเคครับ เจอลมแรงก็ยังสามารถควบคุมช็อตได้ คิดว่าวันนี้สามารถทำได้อย่างที่คิด สกอร์สองวันออกมาพอใจในระดับมากเลยครับ เพราะสนามที่นี่ไม่ได้เข้าทางเราเลย สองวันที่เหลือก็พยายามอยู่กับเกมตัวเอง ได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ต้องพัฒนากันต่อไป”

อันดับสี่ตามเข้ามาเท่ากับ 2 คนที่สกอร์ 6 อันเดอร์พาร์ 138 เป็น ธรรมนูญ ศรีโรจน์ ที่ทำอีเกิ้ลสี่จากระยะ 109 หลาที่หลุม 12 พาร์ 4 ก่อนจบรอบสองเข้ามาถึง 6 อันเดอร์พาร์ 66 และ ธาวิท พลไทย ที่หวดเข้ามา 4 อันเดอร์พาร์ 68 โดยมี เศรษฐี ประคองเวช ที่ทำเพิ่มอีก 2 อันเดอร์พาร์ 70 ตามหลังหนึ่งแต้มที่สกอร์รวม 5 อันเดอร์พาร์ 139

สำหรับอีกสามผู้นำร่วมหลังจบรอบแรก พิชชากร ติระกุล ตีเกินไป 2 โอเวอร์พาร์ 74 หล่นมาอยู่อันดับแปดร่วมด้วยสกอร์ 3 อันเดอร์พาร์ 141, ภวินท์ อิงคะประดิษฐ์ ตีเกินไป 3 โอเวอร์พาร์ 75 ตกมาอยู่อันดับสิบหกร่วมด้วยสกอร์ 2 อันเดอร์พาร์ 142 และ ฐิติพัฒก์ ผาธรรม เกินไป 4 โอเวอร์พาร์ 76 หล่นไปอยู่อันดับยี่สิบหกร่วมด้วยสกอร์ 1 อันเดอร์พาร์ 143

สรุปผลสิงห์-เอสเอที ขอนแก่น แชมเปียนชิพ รอบสอง (สนามพาร์ 72)
135 ปิยะ สว่างอรุณพร 65-70, ดลภัทรไชย นิยมชน 68-67
136 จักรพันธ์ เปรมสิริกรณ์ 69-67
138 ธรรมนูญ ศรีโรจน์ 72-66, ธาวิท พลไทย 70-68
139 เศรษฐี ประคองเวช 69-70
140 สุทธิเจตน์ คูห์รัตนพิศาล 68-72
141 กัมลาศ นาเมืองรักษ์ 70-71, ขวัญชัย กองทวี 70-71, วิชยานนท์ โชติหิรัญรุ่งเรือง 72-69, รณชัย จำนงค์ 70-71, อติรุจ วินัยเจริญชัย 71-70, วรัญญู รัตนไพบูลย์กิจ 70-71, ธัญพิสิษฐ์ ออมสิน 68-73, พิชชากร ติระกุล 67-74

Previous articleอบรมกฏข้อบังคับกีฬากอล์ฟ ปี 2019 (ใหม่) นักกอล์ฟสนใจเพียบที่สิงห์ปาร์ค
Next articleตารางการอบรมทฤษฏีครั้งที่ 2/2561