สาริศ สุวรรณรัตน์ แชมป์ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ 2 รายการกด 6 เบอร์ดี้แบบไม่เสียโบกี้ ขึ้นรั้งจ่าฝูงด้วยสกอร์ 6 อันเดอร์พาร์ 65 โดยมีหกนักกอล์ฟไล่หลังเพียงสโตรกเดียว ในรายการ “สิงห์-เอสเอที บลูแคนยอน แชมเปี้ยนชิพ 2021” ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านบาท ซึ่งเป็นหนึ่งใน 4 รายการช่วงแซนด์บ็อกซ์สวิง ที่สนามบลูแคนยอน คันทรี่คลับ ฝั่งเลคคอร์ส ระยะ 7,061 หลา พาร์ 71 จ.ภูเก็ต เมื่อ 17 ก.ย.64
สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย จัดแข่งขันรายการนี้ ได้รับการสนับสนุน จากการกีฬาแห่งประเทศไทย, กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ, บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จัด เก็บคะแนนสะสม ออร์เดอร์ ออฟ เมอริต รายการที่สองของไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ฤดูกาลนี้ ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านบาท เป็นสัปดาห์แรกของโครงการ แซนด์บ็อกซ์ สวิง จากการสนับสนุนของทางจังหวัดภูเก็ต แข่งขันระบบปิดไม่มีคนดู เน้นมาตรการความปลอดภัยการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 โดยนักกอล์ฟและเจ้าหน้าที่ทุกคน รวมถึงแคดดี้และผู้ติดตาม ต้องตรวจหาเชื้อแบบ เอทีเค ทุกๆ 5 วัน ตามมาตรการที่กำหนด ขณะที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานยังต้อง สแกนคิวอาร์โค้ด กรอกแบบสอบถามประจำวันเพื่อประเมินความเสี่ยงติดเชื้ออีกด้วย
เมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา เป็นรอบแรกของการแข่งขัน “โปรเซฟ” สาริศ สุวรรณรัตน์ นักกอล์ฟวัย 23 ปีจากกรุงเทพฯ ออกตัวได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการเก็บเข้ามา 6 เบอร์ดี้โดยไม่เสียโบกี้แม้แต่หลุมเดียวก่อนขึ้นนำหลังจบรอบแรกด้วยสกอร์ 6 อันเดอร์พาร์ 65 ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่าแม้สนามไม่เข้าทาง แต่เล่นได้ตามแผนที่วางไว้คือพยายามให้มีข้อผิดพลาดให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
“สนามที่นี่คล้ายมาเลย์ ที่สำคัญไม่กว้างมาก ส่วนใหญ่ต้องตีวางไม่ได้ตีไดร์ฟเวอร์มากนัก ก็ค่อนข้างอึดอัดนิดหน่อยเพราะว่าผมเป็นคนชอบตีไดร์ฟเวอร์ แต่พอใจมากครับสามารถทำได้ตามที่ซ้อมมา คือไม่ได้เปิดเกมบุกมาก พยายามตีเซฟให้เสียสกอร์ยากที่สุด เพราะกรีนมันไม่ง่าย สนามมันไม่กว้าง เรียกว่าไม่ได้เข้าทางผมมาก แต่ตีเหล็กได้ดี คุมตัวเองได้ดี ก็เลยสกอร์ออกมาดี”
สาริศ เจ้าของแชมป์ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ 2 รายการที่กบินทร์บุรี สปอร์ตคลับ หรือ เคบีเอสซี และ สิงห์ปาร์ค ขอนแก่น กอล์ฟคลับ เมื่อปี 2019 ยังเผยถึงความหวังในสัปดาห์นี้ด้วยว่า “จริงๆตั้งเป้าไว้ค่อนข้างสูงครับ ถ้าเป็นไปได้คืออยากชนะทั้งสี่รายการเลย แต่ก็พยายามทำให้ดีที่สุดครับ ผมคิดว่าเตรียมตัวมาค่อนข้างพร้อม ทั้งร่างกาย ทั้งเวิร์คเรื่องช็อตเหล็กกับพัตต์ ค่อนข้างพร้อม มั่นใจครับ”
ส่วนอันดับสองร่วม ตามหลังผู้นำหนึ่งสโตรกที่สกอร์ 5 อันเดอร์พาร์ 66 เข้ามาเท่ากันถึง 6 คน ซึ่งสามในจำนวนนั้นเป็นอดีตแชมป์ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์อย่าง นิติธร ทิพย์พงษ์, กษิดิศ เล็บครุฑ และ สุทธิเจตน์ คูห์รัตนพิศาล ส่วนอีก 3 คนเป็น วันชัย หลวงนิติกุล, นิวพอร์ต ลาภาโรจน์กิจ และ เยเทตอ่อง จากเมียนมาร์
นิติธร ทิพย์พงษ์ นักกอล์ฟวัย 24 ปีจากปทุมธานี อดีตแชมป์ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ที่เขาใหญ่ กอล์ฟคลับ เมื่อปี 2017 เปิดเผยว่า “วันนี้เล่นได้ดีเป็นส่วนใหญ่ครับ ทีช็อตได้ดี สนามนี้ผมคิดว่าถ้าทีช็อตอยู่ในแฟร์เวย์น่าจะเล่นช็อตต่อไปได้ง่าย ก็พยายามเก็บลูกให้อยู่แฟร์เวย์ให้เยอะที่สุดแล้วไปลุ้นทำแต้มบนกรีน ก็เล่นได้ตามที่คิดเลยครับ เมนทัลเกมก็ดีเล่นแบบช็อตต่อช็อตและไม่กดดันตัวเอง พยายามเล่นให้สนุก”
ส่วน วันชัย หลวงนิติกุล นักกอล์ฟเจ้าถิ่นชาวภูเก็ตวัย 19 ปีที่ประเดิมรอบแรก 1 อีเกิล 4 เบอร์ดี้ 1 โบกี้กล่าวว่า “ไดร์ฟค่อนข้างดีแต่พัตต์มีหลายลูกที่อ่านไลน์ไม่ค่อยขาด แต่ก็พอใจครับ สัปดาห์นี้ต้องพยายามเสิร์ฟให้อยู่เพื่อจะได้มีลุ้นขึ้นไปพัตต์เบอร์ดี้ ส่วนตัวก็พยายามตีตามแผนที่วางไว้ก็พอโดยไม่ได้ไปกังวลว่าสกอร์ต้องออกมาเท่าไหร่ ทีช็อตให้อยู่แล้วขึ้นไปพัตต์เบอร์ดี้”
ถิรวัฒน์ แก้วศิริบัณฑิต, เศรษฐี ประคองเวช และ วรัญญู รัตนไพบูลย์กิจ จบรอบแรกเข้ามาคนละ 4 อันเดอร์พาร์ 67 ขณะที่ ชลทิตย์ ชื่นบุญงาม, ดลภัทรไชย นิยมชน, จักรภัทร ฮ้อแสงชัย, จักรนาถ อินมี และสองนักกอล์ฟสมัครเล่น สุทธินันท์ ปัญโญ กับ รัชชานนท์ ฉันทนานุวัฒน์ อยู่ในกลุ่มที่ตามหลังผู้นำสามสโตรกที่ 3 อันเดอร์พาร์ 68