กษิดิศ เล็บครุฑ โปร วัย 27 ปี จากปราจีนบุรี โชว์ฟอร์มร้อนแรง หวด 8 อันเดอร์พาร์ 64 รวมสองวัน 12 อันเดอร์พาร์ 132 ขึ้นนำหลังจบรอบสอง ศึกกอล์ฟอาชีพ ไทยแลนด์ พีจีเอ ทัวร์ สนามสอง รายการ "สิงห์ เอสเอที เพชรบุรี แชมเปียนชิพ 2019" ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านบาท ที่สนามสปริงฟิลด์ รอยัล คันทรี่คลับ จ.เพชรบุรี เมื่อ 9 พ.ค.62

กษิดิศ เล็บครุฑ โปรวัย 27 ปีจากปราจีนบุรี ลากเบอร์ดี้ระยะ 30 ฟุตลงไปบนกรีนหลุมสุดท้ายก่อนจบรอบ 8 อันเดอร์พาร์ 64 แบบไม่เสียโบกี้แม้แต่หลุมเดียว ขยับขึ้นรั้งจ่าฝูงด้วยสกอร์รวมสองวัน 12 อันเดอร์พาร์ 132 นำหน้า สัตยา ทรัพย์อัประไมย และ เศรษฐี ประคองเวช 3 สโตรก ในศึกกอล์ฟอาชีพ ไทยแลนด์ พีจีเอ ทัวร์ รายการ “สิงห์-เอสเอที เพชรบุรี แชมเปียนชิพ 2019” ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านบาท ณ สนามสปริงฟิลด์ รอยัล คันทรี่คลับ จ.เพชรบุรี เมื่อ 9 พ.ค.62

สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย จัดการแข่งขัน สิงห์-เอสเอที เพชรบุรี แชมเปียนชิพ 2019 ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านบาท จากการสนับสนุนร่วมกันของ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด และ การกีฬาแห่งประเทศไทย ผู้ชนะจะได้รับเงินรางวัล 240,000 บาท เป็นรายการสะสมเงินรางวัลออเดอร์ ออฟ เมอริท ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ รายการที่สองของฤดูกาล แข่งขันระหว่างวันที่ 8-11 พฤษภาคม 2562 ณ สนามสปริงฟิลด์ รอยัล คันทรี่คลับ ระยะ 7,202 หลา พาร์ 72 จ.เพชรบุรี

เมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา เป็นรอบรองของการแข่งขัน กษิดิศ เล็บครุฑ นักกอล์ฟวัย 27 ปีจากปราจีนบุรี เก็บเข้ามาอีก 8 เบอร์ดี้ ซึ่งรวมถึงการพัตต์ระยะ 30 ฟุต ที่กรีนหลุมสุดท้าย ก่อนจบรอบแบบไม่เสียโบกี้แม้แต่หลุมเดียว ด้วยสกอร์ 8 อันเดอร์พาร์ 64 รวมสองวันขึ้นนำด้วยสกอร์รวม 12 อันเดอร์พาร์ 132

“วันนี้สตาร์ทดีครับ ออกไปได้เบอร์ดี้ตั้งแต่หลุมแรก บวกกับวันนี้ทีช็อตดี ผิดแฟร์เวย์ไปเพียงสองหลุมเท่านั้น และแอพโพรชดีมาก เบอร์ดี้ส่วนมากมาจากระยะ 3-6 ฟุตเกือบหมด แต่หลุมที่เซฟพาร์ไกลบ้างก็มี แต่โดยรวมคือช็อตดี” กษิดิศ นักกอล์ฟจากปราจีนบุรีที่กำลังล่าแชมป์ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์รายการที่สองในอาชีพต่อจากชัยชนะที่เชียงใหม่ อินทนนท์ กอล์ฟเนเชอรัล รีสอร์ท เมื่อปี 2015 กล่าว

นักกอล์ฟจากปราจีนยังกล่าวต่ออีกว่า “เป้าหมายตอนนี้คืออยากจบท็อปเทนแต่ถ้าเป็นไปได้ก็อยากกลับมาเป็นแชมป์ ช่วงนี้กลับมาเล่นดีอีกครั้งตั้งแต่เมษายนที่ผ่านมาก็มีจบท็อปเทนบ้าง อาจจะเป็นเพราะช่วงหนึ่งเราพยายามกดดันตัวเองมากเกินไป ไม่ได้ตีเรื่อยๆอย่างที่เราเคยเป็น เกมของผมคือตีเรื่อยๆ ได้ก็ไ้ด้ ไม่ได้ก็อย่าเสีย ไม่ใช่ว่าจะตีเข้าธงตลอดเวลา เหมือนผมพยายามจะเป็นไฟทเตอร์ แต่มันไม่ใช่ตัวเรา”

อันดับสองร่วม เป็น เศรษฐี ประคองเวช นักกอล์ฟวัย 24 ปีจากชลบุรีที่ในช่วงเช้าของวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมาลงมาเก็บรอบแรกอีก 6 หลุมและจบรอบแรกในฐานะผู้นำด้วยสกอร์ 10 อันเดอร์พาร์ 62 ทว่าเข้ารอบสองตีเกินไป 1 โอเวอร์พาร์ 73 รวมสองวัน 9 อันเดอร์พาร์ 135 เท่ากับ สัตยา ทรัพย์อัประไมย ที่วันนี้ เก็บเพิ่มอีก 5 อันเดอร์พาร์ 67 จาก 5 เบอร์ดี้โดยไม่มีโบกี้เลย

เศรษฐี ซึ่งกำลังลุ้นแชมป์รายการแรกในอาชีพเผยว่า “รอบสองตำแหน่งธงยากกว่าเดิมแล้วตีผิดพลาดเองหลายหลุมต้องเล่นเกมเซฟเกือบทั้งวัน ต่างกับรอบแรกที่พัตต์ดีกว่า อ่านไลน์ขาดกว่า แต่ช่วงนี้ก็ถือว่าไดร์ฟดีแม้วันนี้จะมีไดร์ฟผิดพลาดบ้างก็ต้องปรับปรุงกันต่อไป จะพยายามให้ดีที่สุด อยากจะหาแชมป์แรกให้กับตัวเอง”

ด้าน สัตยา นักกอล์ฟวัย 35 ปีจากสามพรานที่เปลี่ยนไดรเวอร์ใหม่จนได้ระยะเพิ่มจากทีช็อต 10-20 หลายังโชว์ผลงานดีต่อเนื่อง กล่าวว่า “ไดรเวอร์ก็ยังเหมือนเดิมนะ ตีเอาตรงมันก็ไกลกว่าเดิม แต่ส่วนใหญ่วันนี้จะเล่นตีเอาตรงมากกว่า เนื่องจากเราเริ่มรู้สนามมากขึ้น ตีไปวางจุดแล้วแอพโพรช สองวันค่อนข้างพอใจ ตีตามช็อต ไม่ได้ไปเร่งตัวเอง จังหวะไหนที่จะต้องบุกก็บุก อันไหนไม่ได้บุกก็วาง อาจจะเติมตรงที่ว่าต้องคอมมิทกับช็อต”

อันดับสี่เป็น รัชพล จันทวารา ที่เก็บเพิ่มอีก 3 อันเดอร์พาร์ 69 รวมสองวัน 8 อันเดอร์พาร์ 136 ขณะที่ นิรันดร์ แซ่อึ้ง (71)และ ธรรศ แจ้งกิจ (68) ตามหลังหนึ่งสโตรกด้วยสกอร์ 7 อันเดอร์พาร์ 137 ส่วน ตะวัน พงศ์พันธุ์ ที่เพิ่งคว้าแชมป์แรกในอาชีพที่กัซซัน ขุนตาน เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาหวดเพิ่มอีก 5 อันเดอร์พาร์ 67 อยู่อันดับเจ็ดร่วมกับ กิตติกร ชวนะพงศ์ (71) ด้วยสกอร์รวม 6 อันเดอร์พาร์ 138 โดยวันนี้มีการตัดตัวที่สกอร์เกิน 1 โอเวอร์พาร์ 145 ในอันดับที่ 55 ร่วม มีนักกอล์ฟ 62 คนผ่านเข้าไปเล่นต่อในรอบที่สามและสี่

Previous article“รัชพล” ประเดิมรอบแรก 5 อันเดอร์พาร์ นำบนคลับเฮ้าส์ไทยพีจีเอที่สปริงฟิลด์ฯ
Next articleSINGHA TDT Kanchanaburi 2019