สมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทยฯ จับมือ เอเชี่ยนทัวร์ ระเบิดศึกกอล์ฟอาชีพที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศ “ไทยแลนด์ โอเพ่น ครั้งที่ 46” ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ 9) พร้อมเงินรางวัลรวม 300,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 10.5 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 18-21 พฤษภาคมนี้ ที่สนามกอล์ฟไทย คันทรี คลับ จ.ฉะเชิงเทรา “โปรอาร์ม” กิรเดช อภิบาลรัตน์ นำทัพโปรไทยร่วมลุ้น
เมื่อวันอังคารที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา ที่คลับเฮาส์ สนามไทย คันทรีคลับ นายรังสฤษดิ์ ลักษิตานนท์ นายกสมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทยฯ และ โช มิน ทัน ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ เอเชี่ยนทัวร์ (Cho Minn Thant, Chief Operating Officer of Asian Tour) ร่วมแถลงข่าวจัดการแข่งขันกอล์ฟอาชีพ “ไทยแลนด์ โอเพ่น ครั้งที่ 46” ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมเงินรางวัลรวม 300,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 10.5 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 18-21 พฤษภาคมนี้ ที่สนามกอล์ฟไทย คันทรี คลับ จ.ฉะเชิงเทรา โดยมี กิรเดช อภิบาลรัตน์ และ ชิฟ เคเปอร์ โปรชาวอินเดีย พร้อมสื่อมวลชนมาร่วมงานอย่างคับคั่ง
นายรังสฤษดิ์ ลักษิตานนท์ นายกสมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า “สมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทยฯ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้จัดการแข่งขัน ไทยแลนด์ โอเพ่น ครั้งที่ 46 ในปีนี้ เพราะกล่าวได้ว่านี่คือการแข่งขันกอล์ฟอาชีพรายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของไทย ทั้งนี้ต้องขอบคุณเอเชี่ยนทัวร์ และผู้เกี่ยวข้องทุกท่านที่ทำให้การแข่งขันครั้งนี้เกิดขึ้น และขอต้อนรับนักกอล์ฟที่เข้าร่วมการแข่งขันทุกท่าน หวังว่านักกอล์ฟไทยจะประสบความสำเร็จ และทำให้ถ้วยเกียรติยศที่เก่าแก่ที่สุดใบนี้กลับสู่ประเทศไทยอีกครั้ง”
นายกสมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทยฯ ยังได้กล่าวถึงโควต้านักกอล์ฟไทยที่ไม่รวมในส่วนของซูเปอร์สตาร์ที่อยู่ในเอเชี่ยนทัวร์ซึ่งได้สิทธิลงเล่นอยู่แล้วว่า “ในส่วนโควต้านักกอล์ฟไทย เราจะได้มากถึง 46 คน ซึ่งไม่ร่วมนักกอล์ฟไทยที่ได้สิทธิ์อยู่แล้วจากการเป็นสมาชิกเอเชี่ยนทัวร์ โดยจะแบ่งเป็นโควต้านักกอล์ฟสมัครเล่นของสมาคมฯ 10 คน และสมาคมฯจะได้สิทธิเชิญอีก 6 คน ส่วนโควต้านักกอล์ฟอาชีพนั้นเราจะได้ทั้งหมด 30 ที่ซึ่งจะแบ่งเป็น 15 คนสำหรับ สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย และอีก 15 คนที่มาจากอันดับทำเงินของ ออลไทยแลนด์ กอล์ฟทัวร์”
ด้านโปรอาร์ม กิรเดช อภิบาลรัตน์ กล่าว “ผมมีความสุขที่สุดหลังจากได้เห็นรายการ ไทยแลนด์ โอเพ่น กลับมา ผมพร้อมแล้วเช่นกันสำหรับการแข่งขันรายการประจำชาตินี้ที่สนามไทยคันทรี่คลับ ครั้งนี้บรรดานักกอล์ฟระดับชั้นนของ เอเชี่ยนทัวร์ ต่างยืนยันร่วมด้วยคับคั่ง ที่สำคัญนั้นนักกอล์ฟระดับตำนานของไทยอย่าง โปรบุญชู เรืองกิจ , โปรประหยัด มากแสง และ โปรสุเทพ มีสวัสดิ์ ต่างก็เคยคว้าโทรฟี่ใบนี้ ผมก็อยากจะเป็นแบบนั้นเหมือนกัน”
สำหรับกอล์ฟ ไทยแลนด์ โอเพ่น นับเป็นการแข่งขันกอล์ฟอาชีพระดับ เนชั่นแนล โอเพ่น ที่เก่าแก่ที่สุดรายการหนึ่งของเอเชีย เริ่มจัดการแข่งขันครั้งแรกเมื่อปี 2508 ซึ่งที่ผ่านมาผลงานของนักกอล์ฟไทยมีเพียง 3 คนเท่านั้นที่เคยได้ครองถ้วยพระราชทาน รัชกาลที่ 9 อันเก่าแก่ใบนี้ โดย โปรสุเทพ มีสวัสดิ์ เป็นโปรไทยคนแรกที่สามารถคว้าชัยชนะรายการนี้ได้ ในปี 2534 จากนั้น บุญชู เรืองกิจ ทำได้สองครั้งในปี 2535 และ 2547 และ “โปรหมาย” ประหยัด มากแสง เป็นคนไทยคนที่สามที่คว้าแชมป์ได้ในปี 2556 โดยแชมป์คนล่าสุดของรายการนี้คือ คิม คยุง แต โปรชาวเกาหลีใต้ ซึ่งชนะที่สยามคันทรีคลับ แพลนเทชั่น พัทยา เมื่อปี 2558
ในส่วนนักกอล์ฟไทยที่จะร่วมการแข่งขัน ไทยแลนด์ โอเพ่น ครั้งที่ 46 ซึ่งกลับมาอยู่ในเอเชี่ยนทัวร์อีกครั้งในรอบ 8 ปี นำโดย “โปรอาร์ม” กิรเดช อภิบาลรัตน์ แชมป์ทำเงินเอเชี่ยนทัวร์ ฤดูกาล 2013 รวมถึงสองอดีตแชมป์รายการนี้อย่าง ประหยัด มากแสง ที่เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาเพิ่งชนะเอเชี่ยนทัวร์รายการที่ 10 ในชีวิตที่ สิงคโปร์ และ บุญชู เรืองกิจ ตำนานวงการกอล์ฟไทย นอกจากนี้ ยังมีดาวรุ่งอีกหลายคนที่พร้อมจะลุ้นเป็นนักกอล์ฟไทยคนที่สี่ในประวัติศาสตร์ที่ชนะ เนชั่นแนล โอเพ่น บ้านเกิดของตนเอง อาทิ อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์, ภูมิ ศักดิ์แสนศิลป์, ฐิติพรรษ์ ช่วยประคอง, เนติพงศ์ ศรีทอง และ แดนไท บุญมา ฯลฯ
สำหรับนักกอล์ฟทำเงินสูงสุดของเอเชี่ยนทัวร์ที่จะร่วมแข่งขันนอกจาก กิรเดช แล้ว ยังมี สก็อตต์ เฮนด์ มือหนึ่งคนล่าสุดของเอเชียจากออสเตรเลีย รวมถึง เดวิด ลิปสกี้ จากสหรัฐอเมริกา, ถาวร วิรัตน์จันทร์ นักกอล์ฟเจ้าถิ่นชาวไทย และ จี๊ฟ มิลก้า ซิงห์ จากอินเดีย ที่ครองมือหนึ่งเอเชี่ยนทัวร์รวมกันมากถึง 6 สมัยก็พร้อมลุ้นแชมป์ไทยแลนด์ โอเพ่น ครั้งที่ 46 เช่นเดียวกัน