“โปรบูม” อิทธิพัทธ์ บูรณธัญรัตน์ เก็บ 4 เบอร์ดี้ใน 5 หลุมสุดท้ายก่อนจบรอบสอง 8 อันเดอร์พาร์ 63 ขยับขึ้นนำด้วยสกอร์รวม 8 อันเดอร์พาร์ 134 นำหน้า ธรรมนูญ ศรีโรจน์ หนึ่งสโตรค ในศึกกอล์ฟอาชีพไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ รายการ “สิงห์-เอสเอที นครนายก แชมเปี้ยนชิพ 2018” ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านบาท ณ สนามวอเตอร์มิลล์ กอล์ฟ แอนด์ การ์เด้นส์ พาร์ 71 จ.นครนายก เมื่อ 26 เม.ย.61
สิงห์-เอสเอที นครนายก แชมเปี้ยนชิพ ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านบาท โดยการสนับสนุนของ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด และ การกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. ผู้ชนะจะได้รับเงินรางวัล 240,000 บาท แมทช์นี้เป็นรายการสะสมเงินรางวัลออเดอร์ ออฟ เมอริท รายการที่สองของไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ แข่งขันระหว่างวันที่ 25-28 เมษายน 2561 ณ สนามวอเตอร์มิลล์ กอล์ฟ แอนด์ การ์เด้นส์ ระยะ 7,265 หลา พาร์ 71 จ.นครนายก
เมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมาเป็นรอบสองของการแข่งขัน “โปรบูม” อิทธิพัทธ์ บูรณธัญรัตน์ โปรวัย 24 ปีจากนนทบุรี ซึ่งออกสตาร์ทรอบแรกด้วยสกอร์ 71 กลับมาฟอร์มร้อนแรงด้วยการเก็บ 2 เบอร์ดี้ใน 3 หลุมแรก ก่อนปิดท้ายวันด้วยการทำ 4 เบอร์ดี้ในการเล่น 5 หลุมสุดท้ายและจบรอบสองด้วยสกอร์ 8 อันเดอร์พาร์ 63 ขึ้นนำการแข่งขันที่สกอร์รวม 8 อันเดอร์พาร์ 134
นักกอล์ฟจากนนทบุรีเปิดเผยว่า “เหมือนวันนี้พัตต์ได้ครับ เทียบกับวันแรกที่พัตต์ไม่ค่อยลงเท่าไหร่ จริงๆพัตต์น่าจะเหมือนเดิมแต่อ่านไลน์ถูกมากขึ้น คือพัตต์เข้าไลน์ที่เราให้ไปเยอะพอสมควร แอพโพรชขึ้นไปเหลือระยะคันธงนี่สามารถเก็บได้หมดเลย”
อิทธิพัทธ์ เจ้าของแชมป์ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ 2 รายการ โดยรายการหลังสุดเกิดขึ้นที่สนามกบินทร์บุรี สปอร์ตคลับ เมื่อปี 2017 ที่ผ่านมาเปิดเผยถึงการลุ้นแชมป์รายการที่สามของเขาด้วยว่า “สุดท้ายแล้วสี่วันคนชนะจะทำสกอร์เท่าไหร่ไม่รู้ แต่สำหรับผมอยากตีให้ดีแบบวันนี้ ผลจะออกมาเป็นอย่างไรไม่เป็นไร”
ด้าน ธรรมนูญ ศรีโรจน์ โปรวัย 48 ปีจากพลูตาหลวงอดีตมือหนึ่งไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ในยุค 2000 ที่กำลังลุ้นแชมป์แรกในรอบเกือบ 3 ปี จบสกอร์รอบสองเข้ามาอีก 3 อันเดอร์พาร์ 68 รวมสองวัน 7 อันเดอร์พาร์ 135 ตามหลังผู้นำเพียงสโตรคเดียวเท่านั้น
นักกอล์ฟจากพลูตาหลวงที่ชนะครั้งหลังสุดในรายการเอดีทีที่ไต้หวันเมื่อปี 2015 กล่าวว่า “วันนี้เสิร์ฟไม่ค่อยอยู่เท่าไหร่ แต่ถ้าอยู่แฟร์เวย์ก็สามารถสร้างโอกาสให้ตัวเองได้เลย อีกสองวันสุดท้ายต้องดูปัญหาอาการบาดเจ็บที่เท้าด้วย คิดว่าตีได้ไม่มีปัญหา สองวันสุดท้ายได้อีก 6-7 อันเดอร์ ใครดีกว่าก็ชนะไป”
อันดับสามตามเข้ามาเท่ากัน 3 คนที่สกอร์ 6 อันเดอร์พาร์ 136 ประกอบด้วย สมเกียรติ ศรีสง่าที่ตีเข้ามา 67, สุทธิเจตน์ คูห์รัตนพิศาล ที่เก็บเพิ่มอีก 68 และ เศรษฐี ประคองเวช ที่ในรอบสองหวดเข้ามา 70 และอันดับหกร่วมที่สกอร์ 5 อันเดอร์พาร์ 137 อีก 4 คน รวมถึง ถาวร วิรัตนจันทร์ จอมเก๋าวัย 51 ปีที่ในรอบสองหวดเข้ามาอีก 3 อันเดอร์พาร์ 68
สำหรับ อรัณย์ พีรภูมิ โปรวัย 19 ปีจากขอนแก่นที่นำการแข่งขันหลังจบรอบแรก เข้ารอบสองตีเกิน 2 โอเวอร์พาร์ 73 รวมสองวันเหลือ 4 อันเดอร์พาร์ 138 อยู่อันดับสิบร่วมกับนักกอล์ฟคนอื่นๆอีก 9 คน
การแข่งขันหลังผ่าน 36 หลุม คณะกรรมการจัดการแข่งขันคัดนักกอล์ฟเข้าไปเล่นในสองรอบสุดท้ายจำนวน 60 อันดับและเสมอ โดยสกอร์ตัดเข้ารอบที่ 2 โอเวอร์พาร์ 144 มีนักกอล์ฟผ่านเข้ารอบทั้งสิ้น 68 คน