ประหยัด มากแสง โปรวัย 54 ปีจากหัวหินหวดลืมอายุกดเข้ามา 8 เบอร์ดี้ก่อนจบรอบแรกรั้งจ่าฝูงร่วมกับ นิวพอร์ต ลาภาโรจน์กิจ นักกอล์ฟสมัครเล่นจากแคลิฟอร์เนีย ด้วยสกอร์ 7 อันเดอร์พาร์ 65 นำหน้า รฐนน วรรณศรีจันทร์ 2 สโตรก ในแมทช์ปิดฤดูกาลไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ 2020 “สิงห์-เอสเอที ขอนแก่น แชมเปียนชิพ ชิงเงินรางวัลรวม 3 ล้านบาท ณ สนามสิงห์ปาร์ค ขอนแก่น กอล์ฟคลับ ระยะ 7,557 หลา พาร์ 72 จ.ขอนแก่น
สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย จัดการแข่งขัน “สิงห์-เอสเอที ขอนแก่น แชมเปียนชิพ 2020” ชิงเงินรางวัลรวม 3 ล้านบาท โดยจัดภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคอุบัติใหม่ โควิด-19 จากทางภาครัฐอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ จากการสนับสนุนร่วมกันของ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด และ การกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. และกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ โดยรายการนี้เป็นการสะสมเงินรางวัลออเดอร์ ออฟ เมอริท รายการที่ 8 ซึ่งเป็นรายการสุดท้ายของไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ฤดูกาลนี้ แข่งขันแบบสโตรกเพลย์ 54 หลุม ระหว่างวันที่ 17-19 ธ.ค. 2563 ณ สนามสิงห์ปาร์ค ขอนแก่น กอล์ฟ คลับ ระยะ 7,557 หลา พาร์ 72 จ.ขอนแก่น
รอบแรกของการแข่งขันเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา หลังผ่าน 18 หลุมแรกเป็นนักกอล์ฟมากประสบการณ์อย่าง ประหยัด มากแสง อดีตมือหนึ่งของไทยแลนด์พีจีเอทัวร์หลายสมัยวัย 54 ปี กับดาวรุ่งอย่าง นิวพอร์ต ลาภาโรจน์กิจ นักกอล์ฟสมัครเล่นวัย 23 ปีจากแคลิฟอร์เนีย ที่ขึ้นนำการแข่งขันร่วมกันหลังจบรอบแรกเข้ามาคนละ 7 อันเดอร์พาร์ 65 โดยมี รฐนน วรรณศรีจันทร์ ไล่หลังอยู่เพียง 2 สโตรก
ประหยัด มากแสง ที่ลงจากเครื่องบินก็ลงแข่งขันรอบแรกทันทีออกสตาร์ทด้วยความร้อนแรงด้วยการเก็บ 4 เบอร์ดี้ในการเล่น 4 หลุมแรก ก่อนจบวันแรกกดเข้ามา 8 เบอร์ดี้ และขึ้นคลับเฮ้าส์ด้วยสกอร์ 7 อันเดอร์พาร์ 65 ซึ่งเจ้าตัวเปิดเผยว่า “เกมรอบแรกถือว่าโอเคเลย ไม่ได้มาซ้อมเลย เหมือนมาซ้อมวันแรกแต่ปรากฏว่า ไดร์ฟเวอร์ดี เหล็กดี และพัตต์ดี ถือว่าทำสกอร์โอเคเลย”
นักกอล์ฟวัย 54 ปี จากหัวหิน แชมป์ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์หลายรายการ แต่ครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อปี 2018 ที่คว้าชัยชนะที่ กัซซัน เลกาซี จ.ลำพูน ยังกล่าวถึงการลุ้นแชมป์ด้วยว่า “ผมคงเล่นตามเกมของตัวเอง เล่นไปเรื่อยๆไม่ต้องไปอะไรกับกรีนหรือยิงธงมาก ถ้าพัตต์ดีก็ได้ เพราะสนามนี้กรีนเร็วมากคนบางคนให้น้ำหนักพัตต์ยาก เนื่องจากเป็นแมทช์จบและผมคิดว่าน่าจะเป็นกรีนที่เร็วที่สุดที่เล่นมาในฤดูกาลนี้”
ทางด้าน นิวพอร์ต ลาภาโรจน์กิจ นักกอล์ฟสมัครเล่นวัย 23 ปีที่เข้ามาแข่งขันหลังคว้าชัยชนะรายการทีจีเอของสมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทยจนได้สิทธิเขาร่วมสามารถโชว์ผลงานได้อย่างโดดเด่นเก็บเข้ามา 8 เบอร์ดี้ เสียไป 1 โบกี้ ขึ้นนำร่วมหลังจบรอบแรกอย่างเหนือความคาดหมาย
นิวพอร์ต ที่เพิ่งจบจากซานดิเอโก สเตท เจ้าของแชมป์รายการมหาวิทยาลัยสหรัฐอเมริการะดับเอ็นเอไอเอซึ่งเป็นดิวิชั่น 2 ของ เอ็นซีดับเบิลเอ ของสหรัฐอเมริกา 3 รายการ กล่าวว่า “เกมรอบแรกของผมพยายามเล่นเซฟ คือตีไปกลางแฟร์เวย์และให้ขึ้นช็อตเหล็กง่ายๆ แล้วทุกอย่างมันดีไปหมด ผมพยายามตีไปกลางกรีนแล้วโชคดีที่ตีเหล็กดีและพัตต์ลง สำหรับรอบต่อๆไปก็คงเน้นเกมแพลนเดิม แต่ก็ขึ้นอยู่กับสภาพจิตใจถ้าวันไหนฮ็อทจริงๆก็จะยิงธงมากขึ้น”
ทางด้าน รฐนน วรรณศรีจันทร์ นักกอล์ฟวัย 25 ปีจากจันทบุรี เจ้าของแชมป์ไทยแลนด์ โอเพ่น เมื่อปี 2017 ที่กำลังค้นหาความมั่นใจกลับมาพร้อมกับลุ้นแชมป์ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์รายการแรกในอาชีพประเดิมรอบแรกด้วยการเก็บเข้ามา 8 เบอร์ดี้ แต่พลาดเสียไป 3 โบกี้ โดยเฉพาะที่หลุม 18 พาร์ 5 สู้สองออนแต่พลาดตกน้ำและเซฟพาร์ไม่ได้ อย่างไรก็ตามยังจบรอบแรกในอันดับสามด้วยสกอร์ 5 อันเดอร์พาร์ 67
นักกอล์ฟวัย 25 ปีจากจันทบุรี เผยว่า “ที่ผ่านมาไม่ดีเลยครับ ก็พยายามกลับมาให้มีความมั่นใจเหมือนเมื่อก่อน ซึ่งก็ทำได้แล้วเหลือแต่ผลงานที่รอให้มันดี สำหรับเกมรอบแรกตีค่อนข้างดี โดยรวมดีแต่ก็มาพลาดที่หลุมสุดท้ายเพราะตีมาไกล ช็อตสองพยายามสู้ก็เลยเสียโบกี้ แต่ก็ยังถือว่าดี คือสนามนี้ผมค่อนข้างชอบอยู่แล้ว เลยอาจจะรู้ว่าจะต้องตีอะไรแบบไหนยังไง ประกอบกับช่วงนี้พัตต์ดีก็เลยทำสกอร์ได้”
ส่วน สดมภ์ แก้วกาญจนา จบรอบแรกเข้ามา 4 อันเดอร์พาร์ 68 ตามหลังผู้นำ 3 สโตรก ขณะที่ ปิยะ สว่างอรุณพร, สุทธิเจตน์ คูห์รัตนพิศาล, พชร คงวัดใหม่, ปิติภัทร ปิติมานะอารี, โคสุเก ฮามาโมโต้ และ ฉ่างไท้ สุดโสม อยู่อันดับห้าร่วมกับด้วยสกอร์ 3 อันเดอร์พาร์ 69