ภวินท์ อิงคะประดิษฐ์ หวด 7 อันเดอร์พาร์ 63 รวมสามวันขึ้นนำร่วมกับ รัชพล จันทวาราและ พศวีร์ เลิศวิไล ด้วยสกอร์รวม 7 อันเดอร์พาร์ 203 นำหน้าอติรุจ วินัยเจริญชัย และชโยดม จันทร์จารุพงศ์ 2 สโตรกในศึกกอล์ฟอาชีพไทยแลนด์พีจีเอทัวร์รายการสิงห์-เอสเอทีกาญจนบุรีแชมเปียนชิพ 2019 ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านบาท ณ สนามบลูสตาร์ กอล์ฟ คอร์ส ระยะ 6,961 หลา พาร์ 70 จ.กาญจนบุรี เมื่อ 28 มิ.ย.62

สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทยจัดการแข่งขันสิงห์-เอสเอทีกาญจนบุรีแชมเปียนชิพ 2019 ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านบาทจากการสนับสนุนรุ่วมกันของบริษัทสิงห์คอร์เปอเรชั่นจำกัดและการกีฬาแห่งประเทศไทยโดยผู้ชนะเลิศจะรับเงินรางวัลไปครอง 240,000 บาท นับเป็นรายการสะสมเงินรางวัลออเดอร์ออฟเมอริทรายการที่สี่ของไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ฤดูกาลนี้แข่งขันระหว่างวันที่ 26-29 มิถุนายน 2562 ณ สนามบลูสตาร์ กอล์ฟ คอร์ส ระยะ 6,961 หลาพาร์ 70 จ.กาญจนบุรี

เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมาเป็นรอบสามของการแข่งขันภวินท์ อิงคะประดิษฐ์ นักกอล์ฟวัย 27 ปีจากสุพรรณบุรีโชว์ผลงานได้โดดเด่นด้วยการหวด 7 อันเดอร์พาร์ 63 ดีที่สุดของวันรวมสามวัน 7 อันเดอร์พาร์ 203 นำร่วมกับพศวีร์ เลิศวิไล ที่ทำเข้ามาอีก 4 อันเดอร์พาร์ 66 และรัชพล จันทวารา ผู้นำร่วมหลังจบรอบสองที่เก็บเพิ่มอีก 3 อันเดอร์พาร์ 67

นักกอล์ฟวัย 27 ปีจากสุพรรณบุรีที่เก็บ 7 เบอร์ดี้โดยไม่เสียโบกี้ในรอบสามเปิดเผยว่า“วันนี้เป็นวันที่เล่นได้ดีนะครับดีกว่าสองวันแรกที่ตีเหล็กไม่ค่อยดีแต่วันนี้ตีเหล็กได้เข้าเป้ามากขึ้นเปิดโอกาสให้ตัวเองพัตต์เบอร์ดี้มากขึ้นลมไม่แรงด้วยครับทำให้บางหลุมที่เราเคยต้องเซฟก็สามารถตีบุกได้มีชิพอินระยะ 10 หลาที่หลุม 10 แล้วก็ตีเหล็กเข้าไปใกล้หลายหลุม”

แม้จะเคยชนะออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์มาแล้ว 2 รายการแต่สำหรับไทยแลนด์พีจีเอทัวร์นั้นเจ้าตัวยังตามล่าแชมป์แรกในอาชีพซึ่งภวินท์กล่าวว่า“ครับไม่เคยชนะไทยพีจีเอรอบสุดท้ายก็จะทำให้เหมือนวันนี้ดูเกมไปเรื่อยๆคือพยายามเปิดโอกาสให้ตัวเองพัตต์เบอร์ดี้ให้ได้มากที่สุดเพราะสนามนี้เป็นสนามที่ค่อนข้างอยู่แล้วขอให้มีโอกาสขึ้นไปพัตต์ลงไม่ลงว่ากันอีกทีแต่ต้องสร้างโอกาสในทุกๆหลุมให้ได้ก็พอ”

ส่วน รัชพล จันทวารา ผู้นำในรอบสองที่เก็บเพิ่ม 5 เบอร์ดี้ซึ่งรวมถึง 2 เบอร์ดี้ในสองหลุมสุดท้ายก่อนจบรอบสามอีก 3 อันเดอร์พาร์ 67 กล่าวว่า“วันนี้เล่นได้ดีในเก้าหลุมหลังครับช่วงเก้าหลุมแรกผมว่าลมมันแรงแล้วเป็นช่วงที่สนามเล่นยากด้วยพอเก้าหลุมหลังแม้จะยังลมแรงอยู่แต่เหมือนเราเริ่มปรับตัวได้ก็เริ่มเล่นได้ดีขึ้นผลงานวันนี้พอใจมาก”

รัชพล นักกอล์ฟวัย 31 ปีจากอุบลราชธานีที่กำลังลุ้นแชมป์ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์รายการแรกในชีวิตด้วยเช่นกันกล่าวถึงการเล่นในรอบสุดท้ายว่า“ปัจจัยแรกเราต้องตีให้อยู่แฟร์เวย์ก่อนแต่ผมก็ตีออนกรีนเยอะวันนี้ผมก็ตี 15 กรีนแต่อันดับแรกต้องอยู่แฟร์เวย์เพราะว่าแฟร์เวย์มันค่อนข้างแคบแล้วลมมันแรงถ้าเราเอาลูกไม่อยู่แฟร์เวย์หรือต้องไปตีในรัฟมันควบคุมลูกยากส่วนเกมแพลนยืนยันเกมวันแรกอยู่คือเล่นไปตามจังหวะไม่สนใจสกอร์ไม่สนใจผู้นำเล่นตามแผนตัวเองที่วางไว้พยายามตีกรีนให้เยอะๆมีจังหวะหลุมไหนค่อยทำ”

ขณะที่ พศวีร์ เลิศวิไล นักกอล์ฟวัย 28 ปีจากเชียงใหม่ที่เมื่อปีที่แล้วในรายการเดียวกันนี้ก็มีโอกาสได้ออกก๊วนสุดท้ายในวันสุดท้ายก่อนจบอันดับสามมาปีนี้จะได้ออกก๊วนสุดท้ายอีกครั้งหลังจบรอบสามเข้ามาอีก 4 อันเดอร์พาร์ 66 ซึ่งเจ้าตัวกล่าวว่า“ความกดดันคงต้องมีบ้างแต่อย่างน้อยก็มีประสบการณ์จากปีที่แล้วก็จะทำให้ดีที่สุดครับทำวันนั้นให้ดีที่สุดมันจะออกมาเท่าไหร่ก็ถือว่าทำดีที่สุดแล้วและยอมรับมัน”

พศวีร์ ซึ่งกำลังลุ้นแชมป์ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์รายการแรกในชีวิตยังได้กล่าวถึงการเล่นในรอบสามที่เก็บเข้ามา 5 เบอร์ดี้ก่อนจบรอบ 4 อันเดอร์พาร์ 66 ว่า“วันนี้พัตต์ดีครับได้ลูกพัตต์ยาวๆไป 2-3 หลุมแล้วมีโชคดีในช่วงออกสตาร์ทแรกๆด้วยจะออกโอบีแล้วลูกชนต้นไม้กลับเข้ามาสัปดาห์นี้พอใจมากครับถือว่าเล่นได้ตามแผนที่ตั้งใจไว้”

ทางด้าน อติรุจ วินัยเจริญชัย นักกอล์ฟวัย 19 ปีจากชลบุรีที่เคยชนะไทยพีจีเอทัวร์ที่รอยัลฮิลล์ฯเมื่อปี 2018 ที่ผ่านมาจบสกอร์รอบสามเข้ามาอีก 4 อันเดอร์พาร์ 66 รวมสามวัน 5 อันเดอร์พาร์ 205 เท่ากับ ชโยดม จันทร์จารุพงศ์ รุ๊คกี้วัย 20 ปีจากแพร่ที่หวดเข้ามา 66 เท่ากันทั้งคู่ตามหลังผู้นำเพียงสองสโตรกเท่านั้นก่อนเข้า 18 หลุมสุดท้ายของทัวร์นาเมนท์

ผลงานของอติรุจในรอบสามเก็บเข้ามาถึง 7 เบอรดี้ซึ่งรวมถึงการเก็บ 4 เบอร์ดี้ติดต่อกันในช่วง 4 หลุมสุดท้ายโดยเจ้าตัวเผยว่า“สัปดาห์นี้ตีเสียง่ายครับเมื่อวานตีตกรัฟแก้ไปชนต้นไม้ออกโอบีวันนี้ตีมาอยู่กลางแฟร์เวย์ก็ตีตกน้ำออกดับเบิลถ้าเล่นอย่างมีสติก็น่าจะทำสกอร์ได้ดีกว่านี้รอบสุดท้ายก็จะเล่นตามเกมของตัวเองและพยายามให้โอกาสตัวเองแต่ที่สำคัญต้องคุมอารณ์และมีสติกับช็อตให้ดีครับ”

สำหรับ ชโยดม จันทร์จารุพงศ์ นักกอล์ฟวัย 20 ปีจากแพร่ที่เพิ่งเล่นไทยแลนด์พีจีเอทัวร์เป็นฤดูกาลแรกเปิดเผยว่า“วันนี้ตีโอเคเลยครับตีแฟร์เวย์กรีนเยอะแล้วพัตต์ลงเยอะกว่าสองวันแรกวันนี้ตีออนเยอะแต่ก็ไม่ได้ใกล้มากพัตต์อย่างเดียวเลยครับที่ทำให้สกอร์ดีวันนี้เพราะกรีนมันพัตต์ยากรอบสุดท้ายคงจะเล่นให้สนุกครับ”

สรุปผลสิงห์-เอสเอทีกาญจนบุรีแชมเปียนชิพ (สนามพาร์70)
203 ภวินท์ อิงคะประดิษฐ์ 70-70-63, พศวีร์ เลิศวิไล 67-70-66, รัชพล จันทวารา 67-69-67
205 ชโยดม จันทร์จารุพงศ์ 71-68-66, อติรุจ วินัยเจริญชัย 69-70-66
207 สุทธิเจตน์ คูห์รัตนพิศาล 72-68-67, ชัพชัย นิราช 66-71-70
208 ศรัณย์ ศิริธร 73-68-67, ณัทพงศ์ นิยมชน 71-65-72
209 สัจจวัฒน์ ศรีประสิทธิ์ 72-71-66
210 ภูสิทธิ์ ทรัพย์อัประไมย 67-74-69, วีระชัย ยืนยั่ง 70-70-70, เศรษฐี ประคองเวช 68-71-71, พล เขมรัตน์ 68-71-71, กฤติน สุนทรนนท์ 69-70-71, เชาวลิต ผลาผล 70-69-71

Previous article3rd SINGHA Thailand Champions Tour 2019
Next article“พศวีร์” จบการรอคอย 13 ปี ซิวแชมป์แรก กอล์ฟ สิงห์-เอสเอที ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ ที่กาญจนบุรี