ภาณุวิชญ์ อ่อนจู โปรวัย 24 ปีจากกรุงเทพฯ ออกตัวแรงกด 7 อันเดอร์พาร์ 63 ขึ้นไปรั้งจ่าฝูงบนคลับเฮ้าส์ โดยมี ธนาธิป เผือกเทศ ตามหลัง 2 สโตรกในศึกกอล์ฟอาชีพไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ รายการสิงห์-เอสเอที กาญจนบุรี แชมเปียนชิพ ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านบาท ณ สนามบลูสตาร์ กอล์ฟ คอร์ส ระยะ 6,961 หลา พาร์ 70 จ. กาญจนบุรี
สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย จัดการแข่งขัน สิงห์-เอสเอที กาญจนบุรี แชมเปียนชิพ 2019 ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านบาท จากการสนับสนุนรุ่วมกันของ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด และ การกีฬาแห่งประเทศไทย โดยผู้ชนะเลิศจะรับเงินรางวัลไปครอง 240,000 บาท นับเป็นรายการสะสมเงินรางวัลออเดอร์ ออฟ เมอริท รายการที่สี่ของไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ฤดูกาลนี้ แข่งขันระหว่างวันที่ 26-29 มิถุนายน 2562 ณ สนามบลูสตาร์ กอล์ฟ คอร์ส ระยะ 6,961 หลา พาร์ 70 จ.กาญจนบุรี
เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมาเป็นรอบแรกของการแข่งขัน ปรากฏว่ามีประจุไฟฟ้าในอากาศซึ่งเสี่ยงต่อฟ้าผ่าซึ่งเป็นอันตรายต่อนักกอล์ฟอาชีพ ทำให้คณะกรรมการตัดสินใจยุติการแข่งขันชั่วคราว เหลือนักกอล์ฟอาชีพอีก 29 คนที่ไม่สามารถเล่นจบรอบแรกได้ ต้องกลับมาเล่นต่อในเวลา 07.00 น. ของวันที่ 27 มิ.ย.ต่อไป
ในกลุ่มนักกอล์ฟที่เล่นจบนั้น ภาณุวิชญ์ อ่อนจู นักกอล์ฟวัย 24 ปีจากกรุงเทพฯ ที่ลงแข่งขันที่บลูสตาร์ฯเป็นครั้งแรกในชีวิต แต่กลับโชว์ผลงานได้อย่างโดดเด่นเก็บเข้ามา 5 เบอร์ดี้ 1 อีเกิ้ล โดยไม่เสียโบกี้แม้แต่หลุมเดียว ก่อนขึ้นมานำบนคลับเฮ้าส์ด้วยสกอร์ 7 อันเดอร์พาร์ 63 โดยมี ธนาธิป เผือกเทศ ตามหลัง 2 สโตรกที่สกอร์ 5 อันเดอร์พาร์ 65
ภาณุวิชญ์ อ่อนจู ซึ่งกำลังลุ้นแชมป์ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์รายการแรกในชีวิต หลังเคยจบดีที่สุดอันดับสองในการแข่งขันที่บลูแซฟไฟร์ เมื่อปี 2015 กล่าวว่า “วันนี้เสิร์ฟทีช็อตได้ดีครับ ทำให้เกมเหล็กตีง่าย แล้วตีเหล็กขึ้นไปออนในจุดที่ได้มีโอกาสพัตต์ทางขึ้นตลอด ได้พัตต์ขึ้นไลน์มันก็ไม่เยอะมาก ก็ใส่ได้ตลอดไม่ต้องคลึงๆไลน์”
นักกอล์ฟวัย 24 ปีจากกรุงเทพฯ ที่ไม่เคยมีประสบการณ์มาแข่งขันที่บลูสตาร์มาก่อนยังกล่าวต่ออีกว่า “ช่วงเก้าหลุมแรกมีแค่สองเบอร์ดี้ เหมือนกำลังจับสปีดกรีน ยังต้องปรับตัวอยู่ ยังไม่ค่อยเข้าที่เข้าทางเท่าไหร่ พอเก้าหลุมหลังจับสปีดกรีนได้ดีขึ้นก็สามารถปล่อยน้ำหนักได้เนียนขึ้น มันก็ลงเยอะขึ้น”
ภาณุวิญช์ ออกสตาร์ทรอบแรกที่หลุม 10 ก่อนมาเครื่องร้อนจัดในช่วงเก้าหลังที่เขาเก็บอีเกิ้ลที่หลุม 1 พาร์ 5 ระยะ 554 หลา ตามด้วยสองเบอร์ดี้ที่หลุม 3 และ 4 ได้เล่าถึงอีเกิ้ลว่า “ทีช็อตด้วยไม้สามอยู่แฟร์เวย์เหลือระยะประมาณ 250 หลา ก็ตั้งใจตีไปตกบังเกอร์หน้ากรีนแล้วระเบิดขึ้นไป โชคดีระเบิดระยะประมาณ 20 กว่าหลาลงไปเลยครับ ส่วนสามวันที่เหลือคงเล่นให้สนุกอย่างเดียวครับ”
ทางด้าน ธนาธิป เผือกเทศ นักกอล์ฟวัย 31 ปีจากราชบุรี เจ้าของแชมป์ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ 2 รายการที่วิคเตอรี ปาร์ค จ.หนองคาย และบลูแซฟไฟร์ จ.กาญจนบุรี เมื่อปี 2015 ออกสตาร์ทรอบแรก 7 เบอร์ดี้ 1 ดับเบิลโบกี้ ก่อนจบรอบแรก 5 อันเดอร์พาร์ 65 กล่าวว่า “วันนี้เสิร์ฟดีมากมาก เสียไปหลุมเดียวที่ออกโอบี นอกนั้นอยู่แฟร์เวย์หมด อยู่ในระยะที่ทำได้ตลอด ตีเหล็กขึ้นไปก็สามารถพัตต์ลง พัตต์ค่อนข้างดี ถือเป็นการออกสตาร์ทที่ดีมาก”
ส่วน ชัพชัย นิราช นักกอล์ฟวัย 36 ปีจากพิษณุโลก กลับมาลงเล่นในฐานะแชมป์เก่า ประเดิมรอบแรก 4 เบอร์ดี้ โดยไม่มีโบกี้ และจบด้วยสกอร์ 4 อันเดอร์พาร์ 66 เปิดเผยว่า “พอใจนะ คือออกไปเก้าหลุมแรกได้แค่อันเดอร์เดียว คือกรีนมันพัตต์ยาก ก็พยายามเก็บพาร์สี่หลุมสั้นให้ได้ แล้วก็เน้นพาร์ 5 แล้วที่นี่ลมมันแรง สามวันที่เหลือคงเล่นตามช็อตตัวเอง ซ้อมมายังไงก็ตีตามนั้น เราพยายามทำสมาธิช็อตต่อช็อตให้ดีที่สุด เราไม่อยากไปตั้งเป้าและคาดหวัง”
กลุ่มนักกอล์ฟที่จบรอบแรกด้วยสกอร์ 3 อันเดอร์พาร์ 67 ประกอบด้วย ภูสิทธิ์ ทรัพย์อัประไมย์, ชยุตพล กิตติรัตนไพบูลย์ และ รัชพล จันทวารา ขณะที่ พล เขมรัตน์, ธัญพิสิษฐ์ ออมสิน, เศรษฐี ประคองเวช, สุพคม มีสม, พีรภพ พงศ์ธนารักษ์ และ นภัช ปัทมสิงห์ ตามหลังอยู่หนึ่งสโตรกที่สกอร์ 2 อันเดอร์พาร์ 68