ตะวัน พงศ์พันธุ์ โปรวัย 24 ปีจากอุดรธานี ผงาดแชมป์ระดับอาชีพรายการแรกในชีวิต หลังค่าฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ถล่มภาคเหนือจนคณะกรรมการตัดสินใจตัดการแข่งขันเหลือเพียง 36 หลุม ในการแข่งขันไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ รายการ “สิงห์-เอสเอที ลำพูน แชมเปี้ยนชิพ 2019” ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านบาท ณ สนามกัซซัน ขุนตาล กอล์ฟ แอนด์ รีสอร์ท พาร์ 70 จ.ลำพูน เมื่อ 15 มี.ค.62
สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย จัดการแข่งขัน สิงห์-เอสเอที ลำพูน แชมเปี้ยนชิพ 2019 ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านบาท จากการสนับสนุนร่วมกันของ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด และ การกีฬาแห่งประเทศไทย ผู้ชนะจะได้รับเงินรางวัล 240,000 บาท เป็นรายการสะสมเงินรางวัลออเดอร์ ออฟ เมอริท ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ แมทช์แรกของฤดูกาล แข่งขันระหว่างวันที่ 13-16 มีนาคม ณ สนามกัซซัน ขุนตาล กอล์ฟ แอนด์ รีสอร์ท ระยะ 6,146 หลา พาร์ 70 จ.ลำพูน
โดยเมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งกำหนดเป็นรอบสามของการแข่งขัน แต่ปรากฏว่าค่าฝูนละลอง พีเอ็ม 2.5 ในอากาศเกินค่ามาตรฐานจนอาจสร้างอันตรายต่อสุขภาพนักกอล์ฟได้ คณะกรรมการจึงตัดสินใจตัดการแข่งขันเหลือเพียง 36 หลุมเท่านั้น และยกเลิกการแข่งขันในรอบที่สามและที่สี่ ส่งผลให้แชมป์รายการนี้ตกเป็นของ ตะวัน พงศ์พันธุ์ นักกอล์ฟวัย 24 ปีจากอุดรธานี ที่ทำสกอร์รวมสองวัน 9 อันเดอร์พาร์ 131 ทิ้งอันดับสองถึง 4 สโตรก
ตะวัน พงศ์พันธุ์ นักกอล์ฟจากอุดรธานี ที่รับเงินรางวัลไปครอง 240,000 บาท เปิดเผยว่า “ก็ดีใจครับสำหรับแชมป์แรกในชีวิต และก็น่าจะเป็นโชคดีด้วยที่เล่นกันแค่สองวัน แต่ถ้าเล่นครบ 72 หลุมผมคิดว่าโอกาสชนะ 70-80 เปอร์เซนต์ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดตีเข้ามาอีกวันละ 2-3 อันเดอร์น่าจะไม่มีปัญหา”
“สองวันที่ผ่านมาเน้นตีให้อยู่ในแฟร์เวย์ เพราะสนามนี้จริงๆทำเบอร์ดี้ได้เยอะ หากไดร์ฟอยู่แฟร์เวย์ก็มีโอกาสสูง ส่วนเรื่องกรีนเล็กกรีนนุ่มนั้นก็มีเป็นปัญหาซึ่งต้องเผื่อเหล็กเอา แล้วมันทำออกมาดีมันเลยดูไม่มีปัญหา แต่จริงๆเล่นช็อตปกติไม่ได้ก็ต้องเล่นช็อตที่ไม่ถนัดอยู่ดีครับ แต่ทำแล้วมันดีก็เลยโอเค”
ตะวัน อดีตทีมชาติที่ตัดสินใจเทิร์นโปรหลังจบซีเกมส์ ที่สิงคโปร์ เมื่อเดือนกรกฎาคม 2015 กล่าวถึงการคว้าแชมป์แรกในอาชีพของตนเองด้วยว่า “ก็ไม่ได้คาดคิดอะไร ตอนที่เทิร์นโปรแรกๆก็ตั้งใจจะได้แชมป์เร็วๆ แต่พอมันเลยจุดนั้นมาแล้วก็พยายามทำให้ดีที่สุดในทุกแมทช์ ชัยชนะครั้งนี้สำหรับพ่อแม่และทุกๆคนที่คอยสนับสนุนมาตลอด”
ส่วนอันดับสองเท่ากัน 4 คนด้วยสกอร์ 5 อันเดอร์พาร์ 135 ประกอบด้วย ธาวิท พลไทย, วงศกร พิกุลสวัสดิ์, ปิยะ สว่างอรุณพร และ แสงชัย แก้วเจริญ รับเงินรางวัลไปคนละ 85,750 บาท ตามด้วย สดมภ์ แก้วกาญจนา จบอันดับหกด้วยสกอร์ 4 อันเดอร์พาร์ 136 รับเงินรางวัล 51,900 บาท
ทางด้าน นายเมธี สุทัศน์ ณ อยุธยา นายกสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย กล่าวถึงการตัดทัวร์นาเม้นท์เหลือ 36 หลุมว่า “ก่อนจะตัดสินใจได้ปรึกษาทางจังหวัด เรียนถามรองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ท่านรองผู้ว่าก็เป็นห่วงเรื่องภาพลักษณ์ แต่ท่านก็บอกว่าถ้าเป็นท่านก็จะเลือกเอาสุขภาพคนมากกว่า ส่วนเรื่องภาพลักษณ์เมื่อมันเกิดมาแล้วก็ต้องแก้กันไป ถือว่าทางผู้ใหญ่ก็เข้าใจทำให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้น”
“เราก็เฝ้าดูมาตั้งแต่เมื่อวานแล้วนะ ความหนาแน่นของฝุ่นมันก็เพิ่มมากขึ้นทุกสองชั่วโมง มาถึงไคลแม็กซ์เมื่อเช้าก่อนทีออฟ ตัวเลขขึ้นไประดับ 170 กว่า เราก็พยายามเลื่อนไปรอบแรกชั่วโมงหนึ่ง รอบสองเลื่อนอีกชั่วโมงหนึ่ง คาดหวังว่าตัวเลขจะลดลง แต่กลับกลายเป็นเพิ่มขึ้น ด้วยกระแสลมที่นี่มันแค่ไม่เกิน 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มองด้วยสายตาเปล่าก็เห็นว่ามันคงไม่ไหวแล้ว”
“ถ้าถามว่าเราอยู่หน้างาน ถามว่านักกอล์ฟสามารถเล่นได้จบไหม วันนี้เล่น 18 หลุม พรุ่งนี้อีก 18 หลุม มันก็สามารถทำได้ มันอาจไม่มีใครไปสลบในสนาม แต่ฝุ่นพวกนี้มันสะสมในร่างกาย อาจจะไปมีผลในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า ผมเลยตัดสินใจว่าเราเลือกเอาสุขภาพดีกว่า” นายกสมาคมฯ กล่าวในที่สุด
สำหรับการแข่งขันรายการต่อไป ของ ไทยแลนด์ พีจีเอ ทัวร์ เป็นรายการสะสมคะแนนสนามที่ 2 ของปี 2019 ที่สนามสปริงฟิลด์ จ.เพชรบุรี ระหว่างวันที่ 8-11 พฤษภาคม 2562
สรุปผลสิงห์-เอสเอที ลำพูน แชมเปียนชิพ (สนามพาร์ 70)
131 ตะวัน พงศ์พันธุ์ 67-64
135 ธาวิท พลไทย 72-63, วงศกร พิกุลสวัสดิ์ 69-66, ปิยะ สว่างอรุณพร 67-68, แสงชัย แก้วเจริญ 66-69
136 สดมภ์ แก้วกาญจนา 65-71
137 ฉ่างไท้ สุดโสม 69-68, ศรัณย์ ศิริธร 67-70
138 พศวีร์ เลิศวิไล 68-70, เศรษฐี ประคองเวช 72-66