สมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทย ร่วมกับ เอเชี่ยน ทัวร์ จัดงานแถลงข่าวการแข่งขันกอล์ฟอาชีพ รายการ ไทยแลนด์ โอเพ่น ครั้งที่ 47 รฐนน วรรณศรีจันทร์ แชมป์เก่า นำทัพนักกอล์ฟไทย ปะทะโปรดังทั่วเอเชีย ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ ๙) ระหว่างวันที่ 7-10 มิถุนายน 2561 ที่สนามไทย คันทรี คลับ จ.ฉะเชิงเทรา
เมื่อวันอังคารที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา ณ สนามไทย คันทรี่ คลับ จ.ฉะเชิงเทรา นายรังสฤษดิ์ ลักษิตานนท์ นายกสมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทยฯ พร้อมด้วย โช มินน์ ตันท์ ซีอีโอ ของเอเชียน ทัวร์, จอห์น บลันช์ ผู้จัดการทั่วไป ไทย คันทรี คลับ เป็นประธาน และร่วมพูดคุยกับ รฐนน วรรณศรีจันทร์ แชมป์เก่าชาวไทย, ราฮิล กานจี โปรชาวอินเดีย และ จอห์น แคทลิน จากสหรัฐอเมริกา ถึงรายการแข่งขันกอล์ฟอาชีพระดับ เนชั่นเนล โอเพ่น ที่เก่าแก่ที่สุดรายการหนึ่งของ เอเชีย ศึกกอล์ฟ ไทยแลนด์ โอเพ่น 2018 ครั้งที่ 47 ชิงเงินรางวัล 300,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 9.6 ล้านบาท) โดยแชมป์รับเงินรางวัล 54,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.7 ล้านบาท)
นายรังสฤษดิ์ ลักษิตานนท์ กล่าวให้สัมภาษณ์ว่า “การแข่งขันไทยแลนด์ โอเพ่น เป็นแมตช์สำคัญของสมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทย ครั้งนี้เป็นปีที่ 47 ที่มีการแข่งขัน ก่อนหน้านี้มีนักกอล์ฟไทยเพียงแค่ 4 คน ที่ได้แชมป์นี้ หวังว่าอยากเห็นนักกอล์ฟไทยคว้าแชมป์นี้อีกครั้ง เหมือน รฐนน ทำได้่เมื่อปีที่ผ่านมา เพราะสมัยนี้นักกอล์ฟไทยเก่งกันทุกคน ไม่เหมือนก่อนที่เก่งกันไม่กี่คน”
ด้าน รฐนน แชมป์เก่า กล่าวว่า “รู้สึกมั่นใจกับการป้องกันแชมป์ เพราะได้หยุดพักมาสองอาทิตย์ เพื่อเตรียมความพร้อมในการลงแข่งรายการนี้ ทำให้ร่างกายฟิตสมบูรณ์ ก็จะไม่พยายามกดดันตัวเอง เพราะหากตัวเองทำไม่ได้ก็หวังว่าอยากจะเห็นนักกอล์ฟไทยคว้าแชมป์รายการนี้เหมือนตัวเอง”
โช มิน ตันท์ ซีอีโอของ เอเชี่ยน ทัวร์ กล่าวว่า “รู้สึกยินดีกับการที่ เอเชี่ยน ทัวร์ ได้เป็นส่วนหนึ่งของ ไทยแลนด์ โอเพ่น เพราะสมาคมมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการจะผลักดันนักกอล์ฟรุ่นใหม่ให้เกิดขึ้นมา ตั้งแต่ทีมชาติไปจนถึงนักกอล์ฟอาชีพ รายการนี้ถือเป็นรายการสำคัญ เพราะมีการคิดอันดับออร์เดอร์ ออฟ เมอริต และอันดับ พานาโซนิค สวิง รวมถึงอันดับโลก และขอขอบคุณสปอนเซอร์ทุกฝ่ายที่มีส่วนสนับสนุนให้มีการแข่งขันครั้งนี้เกิดขึ้น หวังว่า ไทยแลนด์ โอเพ่น จะอยู่คู่กับ เอเชี่ยน ทัวร์ ตลอดไป”
รายการนี้จะมีนักกอล์ฟเข้าร่วมการแข่งขันทั้งสิ้น 156 คน ร่วมการแข่งขัน โดยแบ่งออกเป็น 90 คน จาก เอเชี่ยน ทัวร์, 20 คนจาก สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย, 20 คน จาก ออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์, 10 คนจาก สมาคมกีฬาหกอล์ฟแห่งประเทศไทย (สมัครเล่น), 6 คนจาก สิงห์ และอีก 10 คนจากผู้สนับสนุนอื่น
สำหรับนักกอล์ฟไทยชั้นนำนอกจาก รฐนน แล้วยังมีมือดีอย่าง พรหม มีสวัสดิ์, ภาณุพล พิทยารัฐ, ภูมิ ศักดิ์แสนศิลป์, อติวิชย์ เจนวัฒนานนท์, ปวิธ ตั้งกมลประเสริฐ, ฐิติพรรษ์ ช่วยประคอง, แดนไท บุญมา, เนติพงศ์ ศรีทอง, ถิรวัฒน์ แก้วศิริบัญฑิต, สุรดิษ ยงค์เจริญชัย, ชัพชัย นิราช, ภันกร อุทัยพัฒน์, ธรรมนูญ ศรีโรจน์ รวมถึง 3 นักกอล์ฟหนุ่มทีมชาติไทยชุดเตรียม เอเชี่ยน เกมส์ ประกอบไปด้วย กัมลาศ นาเมืองรักษ์, สดมภ์ แก้วกาญจนา และ วิชยานนท์ โชติหิรัฐรุ่งเรือง โดยมีมือดีจาก เอเชียน ทัวร์ อาทิเช่น สก๊อตต์ เฮนด์ อดีตมือ 1 ของทัวร์ จากออสเตรเลีย, กากันจีต บูลลาร์ รองแชมป์จากปีที่แล้ว, จอห์น แคตลิน เจ้าของแชมป์ เอเชี่ยน ทัวร์ รายการล่าสุดชาวสหรัฐ
ที่ผ่านมามีนักกอล์ฟไทย 4 คน เท่านั้นที่เคยได้ครองถ้วยพระราชทาน รัชกาลที่ ๙ อันเก่าแก่ใบนี้ โดย สุเทพ มีสวัสดิ์ เป็นคนไทยคนแรกที่สามารถคว้าชัยชนะรายการนี้ได้ในปี 2534 จากนั้น บุญชู เรืองกิจ ทำได้สองครั้งในปี 2535 และ 2547 ต่อด้วย ประหยัด มากแสง ในปี 2556 และแชมป์คนล่าสุด รฐนน วรรณศรีจันทร์ โปรดาวรุ่งจันทบุรี ปี 2560