ภูมิ ศักดิ์ แสนศิลป์ อาศัยความได้เปรียบในช่วงเช้ากดเข้ามา 5 อันเดอร์พาร์ 66 ขึ้นไปนำบนคลับเฮ้าส์ด้วยสกอร์รวม 10 อันเดอร์พาร์ 132 โดยมี สุทธิเจตน์ คูห์รัตนพิศาล ตามหลังอยู่ 2 สโตรค ขณะที่ ตะวัน พงศ์พันธุ์ ผู้นำรอบแรกเล่นไม่จบเนื่องจากสภาพอากาศไม่เป็นใจ ในศึกไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ รายการสิงห์-เอสเอที นครนายก คลาสสิก 2017 ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านบาท ณ สนามวอเตอร์มิลล์ กอล์ฟ แอนด์ การ์เด้นส์ จ.นครนายก เมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา
ไทยแลนด์ พีจีเอ ทัวร์ เก็บคะแนน ออเดอร์ ออฟ เมอริท ฤดูกาล 2017 ของสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย สนามที่ 4 รายการ “สิงห์-เอสเอที นครนายก คลาสสิก 2017” ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 12-15 ก.ค.60 ที่สนามวอเตอร์มิลล์ กอล์ฟ แอนด์ การ์เด้นส์ จ.นครนายก ระยะ 7,054 หลา พาร์ 71 สนับสนุนโดย บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด และ การกีฬาแห่งประเทศไทย โดยผู้ชนะจะรับเงินรางวัล 240,000 บาท
การแข่งขันรอบสองเมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา ปรากฏว่าในช่วงบ่ายเจอพายุฝนฟ้าคะนองจนคณะกรรมการต้องสั่งพักการแข่งขันเกือบ 4 ชั่วโมง ส่งผลให้นักกอล์ฟที่ออกรอบบ่ายจำนวน 66 คนเล่นไม่จบ รวมถึง ตะวัน พงศ์พันธุ์ ผู้นำรอบแรกที่เล่นไป 9 หลุม สกอร์รวมอยู่ที่ 12 อันเดอร์ฯ โดยนักกอล์ฟที่เล่นไม่จบต้องกลับมาเล่นรอบสองต่อในช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 14 ก.ค. เวลา 07.00 น.และตามด้วยการแข่งขันรอบสามซึ่งจะเริ่มแข่งขันหลังจากเวลา 09.45 น.
ในกลุ่มนักกอล์ฟที่เล่นจบรอบสองเป็น ภูมิ ศักดิ์แสนศิลป์ โปรวัย 24 ปีจากจันทบุรี ที่ในรอบนี้เก็บเข้ามาอีก 5 เบอร์ดี้โดยไม่เสียแม้แต่โบกี้เดียว สกอร์ 5 อันเดอร์พาร์ 66 เป็นวันที่สองติดต่อกัน ขึ้นมานำบนคลับเฮ้าส์ด้วยสกอร์รวม 10 อันเดอร์พาร์ 132
ภูมิ ที่คว้าแชมป์ระดับอาชีพมาแล้ว 3 รายการซึ่งรวมถึงแชมป์เอเชียนทัวร์ที่อินโดนีเซียเมื่อปี 2016 ที่ผ่านมา แต่ยังไม่เคยชนะไทยแลนด์พีจีเอทัวร์แม้แต่รายการเดียวเผยว่าในรอบสองตนตีเหล็กไม่ดี แต่ที่สกอร์ออกมาดีเนื่องจากมีโชคเข้าข้าง “วันนี้ถือว่าโชคดีครับ มีชิพอินระยะประมาณ 10 หลาลงไปสองหลุมติดที่หลุม 15 และ 16” ภูมิ กล่าว “ช่วงนี้ตีเหล็กไม่ค่อยเข้า ก่อนมาผมตีเฟดๆ พอไปเช๊คไม้ ปรากฏว่าไม้แฟลทไปอย่างละ 1 องศา ผมไปดัดกลับ ตอนนี้ก็เฟดบ้าง ตีเกี่ยวซ้ายบ้าง แต่มันเป็นนิดหน่อย เป็นไม่เยอะ ที่มันดีเพราะมันโชคดีมากกว่า”
นักกอล์ฟวัย 24 ปีจากจันทบุรี ที่ออกสตาร์ทรายการนี้ด้วยการเสียโบกี้ตั้งแต่หลุมแรกของวันแรก แต่จากนั้นได้คืนมา 11 เบอร์ดี้โดยไม่เสียโบกี้อีกเลย กล่าวถึงการลุ้นแชมป์ไทยพีจีเอทัวร์รายการแรกในชีวิตว่า “ไม่คาดหวังอะไรดีกว่า เพราะเหล็กมันตีไม่เข้าจริงๆครับ ถ้าเหล็กเข้าเป้าหน่อยก็พอคาดหวังอะไรได้บ้าง อันนี้กลัวคาดหวังไปเดี๋ยวจะผิดหวังเปล่าๆ ตอนนี้ก็ตีให้มันเซฟที่สุด อยู่กับเกมตัวเองให้มีโอกาสพัตต์ให้มากที่สุด”
ตามหลังสองสโตรคเป็น สุทธิเจตน์ คูห์รัตนพิศาล นักกอล์ฟวัย 29 ปีจากราชบุรี ที่เก็บเพิ่มอีก 6 อันเดอร์พาร์ 65 รวมสองวัน 8 อันเดอร์พาร์ 134 ซึ่งอดีตแชมป์ไทยพีจีเอทัวร์ที่สนามสว่าง รีสอร์ท แอนด์ กอล์ฟ คลับ เมื่อปี 2012 กล่าวว่า “วันนี้ตีอยู่แฟร์เวย์เยอะครับ สนามที่นี่ถ้าอยู่แฟร์เวย์เยอะก็ทำให้มีโอกาสทำเบอร์ดี้ได้ ตอนนี้ฟอร์มทรงครับ ช่วงนี้ไม่ถึงกับดีมาก แต่ก็หวังว่าอาทิตย์นี้จะทำได้ดีที่สุดครับ”
ขณะที่ พศวีร์ เลิศวิไล ที่ทำเข้ามาอีก 5 อันเดอร์พาร์ 66 รวมสองวันมี 7 อันเดอร์พาร์ 135 เท่ากับ รัชพล จันทรารา ที่หวดเข้ามาอีก 1 อันเดอร์พาร์ 70 และ วิสุทธิ์ อรรจนาวัฒน์ ที่ตีเข้ามา 5 อันเดอร์พาร์ 66 อยู่อันดับห้าร่วมกับ ชลทิตย์ ชื่นบุญงาม ที่สกอร์รวม 6 อันเดอร์พาร์ 136