ธรรมนูญ ศรีโรจน์ โปรจอมเก๋าวัย 48 ปีที่เพิ่งปรับวงสวิงกด 6 เบอร์ดี้โดยไม่เสียโบกี้ จบ 6 อันเดอร์พาร์ 65 รวมสองวัน 9 อันเดอร์พาร์ 133 ขึ้นนำร่วมกับ อิทธิพัทธ์ บูรณธัญรัตน์ และ ดลภัทรไชย นิยมชน ในการแข่งขันกอล์ฟอาชีพไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ รายการสิงห์-เอสเอที เขาใหญ่ แชมเปี้ยนชิพ ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านบาท ณ สนามเขาใหญ่ กอล์ฟคลับ จ.นครราชสีมา เมื่อ 9 พ.ย.60
กอล์ฟอาชีพไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ รายการ “สิงห์-เอสเอที เขาใหญ่ แชมเปี้ยนชิพ 2017” ระหว่างวันที่ 8-11 พฤศจิกายนนี้ เป็นรายการสะสมเงินรางวัลออเดอร์ ออฟ เมอริท รายการที่ 7 จากทั้งหมด 8 รายการของ สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย รายการนี้แข่งขันกันที่สนามเขาใหญ่ กอล์ฟคลับ ระยะ 7,116 หลา พาร์ 71 ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านบาท จากการสนับสนุนร่วมกันของ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด และ การกีฬาแห่งประเทศไทย ผู้ชนะจะรับเงินรางวัลไปครอง 240,000 บาท
การแข่งขันรอบสองเมื่อวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา ธรรมนูญ ศรีโรจน์ นักกอล์ฟจอมเก๋าวัย 48 ปีอดีตมือหนึ่งไทยแลนด์พีจีเอทัวร์หลายสมัย กลับมาคืนฟอร์มเก่งอีกครั้งด้วยการเก็บ 6 เบอร์ดี้โดยไม่เสียโบกี้ จบรอบสองเข้ามา 6 อันเดอร์พาร์? 65 รวมสามวัน 9 อันเดอร์พาร์ 133 ขึ้นนำร่วมกับ ดลภัทรไชย นิยมชน และ อิทธิพัทธ์ บูรณธัญรัตน์ ที่ตีเข้ามา 66 และ 67 ตามลำดับ
ธรรมนูญ ศรีโรจน์ ที่ชนะการแข่งขันครั้งหลังสุดในรายการระดับเอดีทีทัวร์ ที่ประเทศไต้หวัน เมื่อปี 2015 กล่าวว่า “ผมเพิ่งเปลี่ยนวงสวิงมา แล้วประเดิมแมทช์นี้เลย มันไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว ทำให้อยู่ในแฟร์เวย์มากขึ้น เมื่อก่อนทีออฟอยู่ 4-5 แฟร์เวย์ มันก็ไม่ได้ มารายการนี้เริ่มอยู่ 9 แฟร์เวย์ 10 แฟร์เวย์ มันก็มีโอกาสเบอร์ดี้มากขึ้น”
อดีตมือหนึ่งของไทยแลนด์พีจีเอทัวร์หลายสมัยในช่วงยุคต้นทศวรรษ 2000 กล่าวถึงความหวังในอีกสองวันสุดท้ายว่า “ผมว่าน่าจะตีไปเรื่อยๆอย่างนี้ ถ้าเกิดจะได้มันก็ได้เอง แต่ความรู้สึกผมนะ ฟิลลิ่งมันได้ มันน่าจะตีได้ทรงเดิม ถ้ายังอยู่แฟร์เวย์เยอะผมคิดว่ามีลุ้น”
ทางด้าน ดลภัทรไชย นิยมชน นักกอล์ฟวัย 27 ปีจากนครสวรรค์ ซึ่งกำลังลุ้นแชมป์ไทยพีจีเอทัวร์?รายการแรกในชีวิต เข้ารอบสองเก็บเข้ามาอีก 7 เบอร์ดี้ ก่อนจบรอบ 5 อันเดอร์พาร์ 66 โดยเจ้าตัวเผยว่า “สตาร์ทตอนแรกดีอยู่นะครับ ได้มาสามเบอร์ดี้ แล้วไปสะดุดสามพัตต์ออกโบกี้ ทำให้เกมในช่วงเก้าหลุมแรกช็อตไปเลย ยังดีที่มาเริ่มได้ใหม่เก้าหลุมหลังก็ทำได้ดี”
ดลภัทรไชย ที่ผลงานรายการของสมาคมฯดีที่สุดคือการจบอันดับห้าในการแข่งขันที่วอเตอร์มิลล์ เมื่อปี 2013 เผยว่าสาเหตุที่ทำให้เขาเกาะกลุ่มผู้นำได้ในสองวันแรกคือแผนการเล่น “ผมคิดว่าเป็นที่แผน ต้องเล่นเซฟๆ สู้มากไม่ได้ ถ้าเป็นคนตีไกลมันไปทางไหนก็ได้ แต่ผมตีสั้นก็ต้องวางไปตามเหลี่ยม ขึ้นไกลหน่อยไม่เป็นไร อีกสองวันที่เหลือก็ตีไปตามแผน วางแฟร์เวย์ กรีน”
ส่วน อิทธิพัทธ์ บูรณธัญรัตน์ ที่ออกสตาร์ทรอบสองด้วยการตามหลังผู้นำสโตรคเดียว ยังเล่นได้อย่างคงเส้นคงวา เก็บเข้ามา 7 เบอร์ดี้ แต่ไปพลาดเสียสามโบกี้ซ้อนในช่วงเก้าหลุมหลัง ก่อนกลับขึ้นคลับเฮ้าส์ด้วยสกอร์ 4 อันเดอร์พาร์ 67 รวมสองวัน 9 อันเดอร์พาร์ 133
อิทธิพัทธ์ โปรวัย 24 ปีจากนนทบุรี เจ้าของแชมป์ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ 2 รายการ กล่าวว่า เกมโดยรวมก็ยังดีนะครับ หลังจากไปพลาดเสียสามโบกี้ ผมก็โอเคกลับมาตีเรคกูลาร์ออนได้อีกครั้ง ไม่มีอะไรดีเป็นพิเศษ มันเฉลี่ยกันไป หลักๆคือยังคงพัตต์ดีเหมือนเดิม”
กลุ่มที่อยู่อันดับสี่ร่วมตามหลังผู้นำสองสโตรคที่สกอร์รวม 7 อันเดอร์พาร์ 135 ตามเข้ามาเท่ากันถึง 5 คน ประกอบด้วย ปุณณวิชญ์ ฮิรายามา ที่หวดเข้ามา 5 อันเดอร์พาร์ 66 ขณะที่ ศุภกฤษ รัตนกำพล, เจษฎา เสวีวัลลพ, รณชัย จำนงค์ และ ภิญโญ ภิรมย์รื่น ที่ทำเข้ามาอีกคนละ 4 อันเดอร์พาร์ 67
สำหรับ อรรถพล จรณะหุต นักกอล์ฟวัย 21 ปีชาวนครราชสีมาที่นำการแข่งขันหลังจบรอบแรก เข้ารอบสองตีเกินไป 4 โอเวอร์พาร์ 75 หล่นลงมาอยู่อันดับสามสิบแปดร่วมที่สกอร์รวม 2 อันเดอร์พาร์ 140
อนึ่ง การแข่งขันเมื่อผ่าน 36 หลุม คณะกรรมการจัดการแข่งขันได้คัดนักกอล์ฟเข้าไปเล่นในสองวันสุดท้ายหกสิบอันดับและเสมอ โดยคะแนนตัดเข้ารอบที่ อีเวนพาร์ 142 มีนักกอล์ฟผ่านเข้าไปเล่นในสองวันสุดท้ายทั้งสิ้น 66 คน
สรุปผลสิงห์-เอสเอที เขาใหญ่ แชมเปี้ยนชิพ (สนามพาร์ 71)
133 ธรรมนูญ ศรีโรจน์ 68-65, ดลภัทรไชย นิยมชน 67-66, อิทธิพัทธ์ บูรณธัญรัตน์ 66-67
135 ปุณณวิชญ์ ฮิรายามา 69-66, ศุภกฤษ รัตนกำพล 68-67, เจษฎา เสวีวัลลพ 68-67, รณชัย จำนงค์ 68-67, ภิญโญ ภิรมย์รื่น 68-67
136 โรเบอร์โต กัลเล็ทติ (สหรัฐฯ) 70-66, วีระชัย ยืนยั่ง 69-67, นรัส เหลืองเพชราภรณ์ 69-67, นภัช ปัทมสิงห์ 68-68, กฤติน สุนทรนนท์ 67-69, นิติธร ทิพย์พงษ์ 66-70
137 สมปราชญ์ รัตนสุวรรณ 68-69, วรเมธ อัศรัสกร 69-68, รัชพล จันทวารา 70-67, วชิรวิทย์ เสาร่อน 68-69, ปิยชาติ อยู่สบาย 70-67, วรสรณ์ สุวรรณพนัง 69-68, อุกฤษฏ์ เอี่ยมสะอาด 72-65
