อุดร ดวงเดชา แชมป์เก่าวัย 47 ปีจากเชียงใหม่หวดมาราธอน 24 หลุมก่อนจบสกอร์รอบสามเข้ามาอีก 3 อันเดอร์พาร์ 68 รวมสามวันขยับขึ้นนำที่สกอร์รวม 14 อันเดอร์พาร์ 199 นำหน้า ถิรวัฒน์ แก้วศิริบัณฑิต สโตรคเดียว ในศึกกอล์ฟอาชีพไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ รายการสิงห์-เอสเอที นครนายก คลาสสิก 2017 ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านบาท ณ สนามวอเตอร์มิลล์ กอล์ฟ แอนด์ การ์เด้นส์ จ.นครนายก เมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา
ไทยแลนด์ พีจีเอ ทัวร์ เก็บคะแนน ออเดอร์ ออฟ เมอริท ฤดูกาล 2017 ของสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย สนามที่ 4 รายการสิงห์-เอสเอที นครนายก คลาสสิก 2017 ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 12-15 ก.ค.2560 ที่สนามวอเตอร์มิลล์ กอล์ฟ แอนด์ การ์เด้นส์ จ.นครนายก ระยะ 7,054 หลา พาร์ 71 สนับสนุนโดย บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด และ การกีฬาแห่งประเทศไทย โดยผู้ชนะจะรับเงินรางวัล 240,000 บาท
การแข่งขันในวันที่ 14 ก.ค.นักกอล์ฟหลายคนต้องเล่นกันแบบมาราธอน เนื่องจากต้องมาเก็บรอบสองให้จบในช่วงเช้า ก่อนตามด้วยการแข่งขันในรอบที่สามทันที รวมถึง อุดร ดวงเดชา ที่ต้องกลับมาเล่นรอบสองอีก 6 หลุม ก่อนจบสกอร์รอบสองเข้ามา 5 อันเดอร์พาร์ 66 รวมสองรอบ 11 อันเดอร์พาร์ 131 ตามหลังผู้นำสองสโตรค
จากนั้น อุดร นักกอล์ฟวัย 47 ปีจากเชียงใหม่ต้องต่อด้วยการเล่นรอบสามอีก 18 หลุม ก่อนเก็บเข้ามาอีก 3 อันเดอร์พาร์ 68 ขยับขึ้นนำการแข่งขันด้วยสกอร์รวม 14 อันเดอร์พาร์ 199 นำหน้า ถิรวัฒน์ แก้วศิริบัณฑิต ที่หวดเข้ามาอีก 4 อันเดอร์พาร์ 67 เพียงสโตรคเดียวเท่านั้น
อุดร ที่เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้วคว้าแชมป์ที่สนามแห่งนี้ เปิดเผิดถึงการป้องกันแชมป์ของตนเองว่า “รายการนี้มีพวกเด็กๆดาวรุ่งขึ้นมาเยอะ เราก็ตีของเราไปเรื่อยๆ ตีตามจังหวะ ยังไงก็ขอหนึ่งในห้า แต่ก็หวังแชมป์ลึกๆ มันอยู่ที่จังหวะ แต่ก็แอบหวังอยู่ลึกๆ”
นักกอล์ฟจากเชียงใหม่นักกอล์ฟทำเงินสูงสุดไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ ออร์เดอร์ ออฟ เมอริท สามสมัยซ้อนในช่วงปี 2010-2012 บอกด้วยว่าโอกาสที่จะชนะอยู่ที่ช็อตแอพโพรช “ไดร์ฟเวอร์นี่ไม่มีปัญหา ถ้าเหล็กมาก็มีลุ้นเพราะช็อตแอพโพรชไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ต้องรูทีนเข้าบอลให้ถูก ถ้าเข้าไม่ถูกหักคอเข้าซ้ายหมดเลย”
ด้าน ถิรวัฒน์ แก้วศิริบัณฑิต แชมป์ไทยพีจีเอทัวร์ 1 รายการที่สนามกอล์ฟเขื่อนรัชชประภา เมื่อปีที่ผ่านมา กล่าวว่า “รอบสุดท้ายผมคิดว่ายังเล่นตามเกมตัวเองอยู่ คือ แฟร์เวย์ กรีน พัตต์ ตามสไตล์ผมไปเรื่อยๆ แล้วไปรอทำแต้มที่หลุมพาร์ 5 แล้วรอดูสถานการณ์อีกทีว่าจะเป็นยังไง ถ้าตามก็ต้องไล่ให้เต็มที่”
ถิรวัฒน์ โปรวัย 27 ปีจากขอนแก่น ยังกล่าวอีกว่า “วันนี้ก็เหนื่อยหน่อย เพราะตอนเช้าต้องออกมาเล่นเก็บ 5 หลุม แต่โดยรวมก็พอใจกับผลงานวันนี้ สัปดาห์นี้รู้สึกว่าตัวเองเล่นดีกว่าที่คิดไว้ เพราะเพิ่งกลับมาจากไต้หวันต้องปรับตัวเรื่องสนาม เรื่องลม ที่ไต้หวันตีอีกแบบ ที่นี่เรากลับมาก็มาเล่นอีกแบบหนึ่ง ถือว่าเล่นได้ดีเลยครับ”
อันดับสามเป็น ภูมิ ศักดิ์แสนศิลป์ ซึ่งกำลังลุ้นแชมป์รายการของสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทยรายการแรกของตนเอง ในรอบสาม ภูมิ ทำสกอร์รอบสามเข้ามาอีก 2 อันเดอร์พาร์ 69 รวมสามวัน 12 อันเดอร์พาร์ 201 ตามหลังผู้นำเพียงสองสฌตรค
ส่วน ตะวัน พงศ์พันธุ์ ที่นำการแข่งขันรอบแรกกลับลงมาเล่นที่เหลืออีก 7 หลุม ทำสกอร์เพิ่มได้อีกหนึ่งเบอร์ดี้ ทำให้จบรอบสองด้วยสกอร์ 5 อันเดอร์พาร์ 66 รวมสองรอบยังนำการแข่งขันที่สกอร์รวม 13 อันเดอร์พาร์ 129 แต่พอเข้ารอบสามตีเกินไป 2 โอเวอร์พาร์ 73 รวมสามวันหล่นมาอยู่อันดับสี่ร่วมกับ เชาวลิต ผลาผล ที่สกอร์รวม 11 อันเดอร์พาร์ 202 โดยในรอบสาม เชาวลิต ตีเข้ามา 67
ตะวัน โปรวัย 23 ปีจากอุดรธานี กล่าวว่า “รอบสองจริงๆแล้วดีครับถึงแม้จะออกไปแล้วเสียโบกี้ตั้งแต่หลุมแรก แต่โดยรวมแล้วยังพัตต์โอเคอยู่ เมื่อเช้ากลับมาเล่นต่ออีก 7 หลุม ฟิลลิ่งก็ยังโอเคอยู่ครับ พัตต์ก็พัตต์ดีนะครับ แต่มันไม่ลง เมื่อวานก่อนเลิกฟิลลิงกำลังดีเลยเข้ารอบสามก็โอเคนะครับ แต่ดูตำแหน่งธงแล้วมันดูยากๆ ก็พัตต์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ก็โอเคครับ”
สรุปผลสิงห์-เอสเอที นครนายก คลาสสิก (สนามพาร์ 71)
1. (-14) 199 อุดร ดวงเดชา 65-66-68
2. (-13) 200 ถิรวัฒน์ แก้วศิริบัณฑิต 68-65-67
3. (-12) 201 ภูมิ ศักดิ์แสนศิลป์ 66-66-69
4. (-11) 202 เชาวลิต ผลาผล 66-69-67, ตะวัน พงศ์พันธุ์ 63-66-73
6. (-10) 203 รัชพล จันทวารา 65-70-68, พศวีร์ เลิศวิไล 69-66-68
8. (-9) 204 วิสุทธิ์ อรรจนาวัฒน์ 70-66-68