สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย จัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566 ณ ห้อง โฮลอินวัน ชั้น 2 สนามกอล์ฟ บางกอก กอล์ฟคลับ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน 2567 มีสมาชิกสามัญ (ทัวริ่งโปร), วิสามัญ (ทิชชิ่งโปร) กรรมการบริหาร, และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมกว่า 200 ราย โดยมี โปรเมธี สุทัศน์ ณ อยุธยา รักษาการนายกสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพคนปัจจุบันที่ได้หมดวาระลง ทำหน้าที่ รายงานรายละเอียดต่อที่ประชุม ประกอบด้วยการรับรองรายงานการประชุมวาระที่ผ่านมา ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณารับรองเป็นเอกฉันท์
ต่อมาเป็นวาระแถลงผลงานและกิจการ ซึ่งนายกเอ็กซ์ ได้อธิบายถึงสิ่งต่างๆที่ได้ทำไป ประกอบด้วยการพัฒนาวงการโดยรวมของวงการกอล์ฟที่ไม่ได้มุ่งเน้นเฉพาะกลุ่มสมาชิกสามัญเพียงอย่างเดียว เช่นการเปิดการอบรมความรู้และการทำแอพพลิเคชั่นสอนกอล์ฟให้สมาชิกวิสามัญซึ่งเป็นการสนับสนุนสมาชิกวิสามัญครั้งแรกในรอบหลายปี, การจัดอบรมให้มีแคดดี้อาชีพ เป็นสมาชิกของสมาคมฯ, การสะสางระบบสมาชิกที่ซ้ำซ้อนและขาดอายุ ฯลฯ รวมถึงเรื่องการเปลี่ยนแปลงกำหนดวันแข่งขันเพื่อลดค่าใช้จ่าย ซึ่งที่ประชุมได้รับทราบและรับรองวาระตอนท้าย
วาระต่อมาจากนั้นจึงเป็นการแถลงเรื่องการเงิน, รายรับ, รายจ่าย และงบดุลประจำปี 2566 สมาคมฯ มีรายรับรวมทั้งสิ้น 72,085,886.06 รายรับส่วนใหญ่มาจากการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ และ บริษัท เอกชน ที่สนับสนุนต่อเนื่อง ด้านรายรับรวมทั้งปีอยู่ที่ 70,306,189.74 บาท สรุป ในรอบปี มีรายได้สูงกว่ารายจ่าย 1,779,696.32 บาท เปรียบเทียบกับปี 2565 สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพฯ มีรายรับรวมทั้งสิ้น 68,122,434,.49 บาท มีรายจ่ายรวมอยู่ที่ 68,521,626.37 บาท สรุป มีรายจ่ายสูงกว่ารายได้ 399,191.88 บาท
ขณะที่ เงินงบประมาณ การบริหารงานในปัจจุบันปี 2567 สมาคมฯ โดนลดเงินสนับสนุนจากส่วนต่างๆลงทำให้สมาคมฯมีรายรับลดลง 15 % ต้องบริหารจัดการด้วยการตัดค่าใช้จ่ายลงทุกรายการ ยกเว้นเรื่องเดียวที่ไม่ลดแต่กลับเพิ่มขึ้นนั้นคือ เงินรางวัลการแข่งขันของสมาชิก ส่วนที่กระทบกับสมาชิกคือ ลดจำนวนวันแข่งขันลง รายการ ไทยแลนด์ พีจีเอทัวร์ จาก 4 วันเหลือ 3 วัน, รายการ ไทยแลนด์ ดีเวลลอปเมนท์ ทัวร์ จาก 3 วันลดเหลือ 2 วัน จากการทำงานดังกล่าว ส่งผลให้ ณ วันประชุมใหญ่ สมาคมมีเงินงบประมาณเหลือประมาณ 42 ล้าน ส่งมอบให้แก่คณะกรรมการชุดใหม่บริหารต่อไป
หลังการแถลง ที่ประชุมมีมติรับรองวาระทั้งหมด ก่อนที่นายกเมธี สุทัศน์ ณ อยุธยา กล่าวขอบคุณคณะกรรมการบริหารที่ร่วมงานมา 8 ปี ขอบคุณสมาชิกที่ไว้วางใจให้ทำงานตลอดเวลาที่ผ่านมา บางเรื่องได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่จะเป็นประโยชน์แก่สมาชิกในภายหน้า ซึ่งตนขอฝากคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ให้รับไปพิจารณาดำเนินการต่อไป สำหรับตนแม้หมดการทำหน้าที่ลง แต่ยังคงยินดีช่วยเหลือ สนับสนุน กีฬากอล์ฟต่อไปในภายหน้าเช่นเดิม
หลังจากนั้นจึงเป็นวาระสำคัญคือการเลือกตั้งนายกสมาคมคนใหม่ แทนที่นายเมธี ที่ดำรงตำแหน่งมาครบวาระ 4 ปี (รวมการดำรงค์ตำแหน่งทั้งสิ้น 2 วาระ ระยะเวลา 8 ปี )
วาระเริ่มด้วยประชุมได้เชิญ โปรอำนาจ เกิดกระสินธุ์ โปรอาวุโสสูงสุดทำหน้าที่ประธานการเลือกตั้ง โปรวัลลภ ขนาดนิด นายทะเบียน ผู้ดำเนินการประชุม แนะนำ นายจามร จามรี นิติกร 4 จากการกีฬาแห่งประเทศไทยทำหน้าที่ผู้สังเกตการณ์ แจ้งต่อที่ประชุมถึงจำนวนสมาชิกประเภท สามัญ (ทิชชิ่งโปร) ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้นเข้าร่วมประชุม 131 ราย จากนั้นเป็นการเปิดโอกาสให้สมาชิกเสนอชื่อบุคคลที่เหมาะสมเป็นนายกฯ ซึ่งมีเพียงโปรบุญชู เรืองกิจ ได้เสนอชื่อ คุณพงษ์รัตน์ เหลืองธำรงเจริญ ต่อที่ประชุม ซึ่งเหล่าสมาชิกพร้อมใจกันยกมือรับรอง หลังจากนั้น ไม่มีการเสนอชื่อบุคคลอื่นใดอีก ส่งผลให้ นายพงษ์รัตน์ เหลืองธำรงเจริญ ได้รับมติเอกฉันท์ 131 เสียงให้เป็น นายกสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย คนใหม่ทันที โดยมีวาระการบริหารงานเวลา 4 ปี โดยไม่มีเสียงคัดค้าน และไม่มีผู้งดออกเสียงในที่ประชุม
สำหรับคุณพงษ์รัตน์ เหลืองธำรงเจริญ หรือ โจ ปัจจุบัน ดำรงค์ตำแหน่งเป็น กรรมการผู้จัดการ บริษัท สิงห์ปาร์ค เชียงราย จำกัด เป็นผู้บริหารรุ่นใหม่ที่อยู่ภายใต้กลุ่มบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด มีความรู้และประสบการณ์ทำงานหลายด้าน โดยชำนาญด้านกิจการที่ไม่มีส่วนของ แอลกอฮอร์ เป็นอย่างดี เช่นบริษัท มารุเซ็น ฟู้ด (ไทยแลนด์) เคยทำหน้าที่กรรมการบริหารสมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทย, เป็นผู้อยู่เบื้องหลังนักกอล์ฟทีมชาติไทยหลายชุด ตลอดจน เป็นผู้บริหารงาน กิจกรรมด้านกีฬาของบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ ด้วย
หลังได้รับการเลือกตั้งแล้ว “นายกโจ” พงษ์รัตน์ แถลงกับสมาชิกว่า ขอขอบคุณสมาชิกทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจให้ทำหน้าที่นี้ แม้จะทำงานเบื้องหลังมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งงานในสมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทย และคุ้นเคยกับนักกีฬากอล์ฟมานาน กับโปรหรือนักกีฬาหลายๆ ท่านที่สิงห์ คอร์ปอเรชั่นให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี แต่การได้มายืนหน้าสุดทุกท่านในตำแหน่งนี้ อดทำให้ตื่นเต้นไม่ได้ ตนได้หารือกับ “นายกเอ็กซ์” เมธี สุทัศน์ ณ อยุธยา ถึงงานต่างๆที่ได้ดำเนินมา ซึ่งต้องขอขอบคุณอดีตนายกฯ เมธี และคณะกรรมการบริหาร ที่ได้ทำงานอย่างดีและส่งมอบงานให้ทำได้อย่างต่อเนื่อง จากนี้ไปจนจะขอนำความรู้ ประสบการณ์ ตลอดจน สิ่งที่มีในตัว มาใช้ทำงานกับสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย ให้ดีที่สุด สิ่งใดที่เป็นประโยชน์สำหรับสมาชิก จะไม่ลังเลอย่างแน่นอน
สำหรับแนวทาง หรือ นโยบายคร่าวๆคือจะ ยกระดับกีฬากอล์ฟให้มีคุณค่าเพิ่มขึ้น ตลอดจน เปลี่ยนแปลงรูปแบบให้มีความน่าสนใจยิ่งขึ้นด้วยการ ยกระดับการรับฟังสมาชิก ให้เป็นการสื่อสารแบบสองทาง อาจมีการตั้ง คณะทำงานย่อยเพื่อให้ทำงานได้คล่องตัวงานบรรลุได้ง่ายขึ้นซึ่งจะดำเนินการต่อไป ตนอยากเปลี่ยนแปลงรูปแบบของวงการกอล์ฟให้มีความน่าสนใจเพิ่มคุณค่าในตัวเอง จนสามารถดึงการสนับสนุนสปอนเซอร์ ให้วงการกอล์ฟมีความแข็งแรง พัฒนาไปในทิศทางที่ชัดเจนต่อไปในอนาคต ขอกล่าวเพียงเท่านี้ ต่อไปจะขอฟังและลงมือทำเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่สมาชิกมากที่สุดและกีฬากอล์ฟต่อไป